ททท.เตรียมเสนอให้ครม.พิจารณา ประกาศให้ประเทศไทย เป็นท่องเที่ยววิถีไทยในปี 58 เพื่อให้ทุกหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน บูรณาการการ ทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะหน่วยงานใน 4 กระทรวงหลัก
นายธวัชชัย อรัญญิก ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ในการประชุมครม.วันที่ 12 พ.ยนี้ นางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา จะเสนอให้ครม.พิจารณา ประกาศให้ประเทศไทย เป็นท่องเที่ยววิถีไทยในปี 58 เพื่อให้ทุกหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน บูรณาการการ ทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะหน่วยงานใน 4 กระทรวงหลัก ได้แก่ กระทรวงคมนาคม กระทรวงทรัพยากร กระทรวงมหาดไทย และ กระทรวงสาธารณสุข ที่จะเสนอให้เป็นแกนหลักสำคัญในการทำงานร่วมกัน เพื่อพัฒนาและฟื้นฟูแหล่งท่องเที่ยว ก่อนนำเสนอขายสู่สายตานักท่องเที่ยวทั่วโลก
สำหรับกระทรวงสาธารณสุขนั้น จะขอให้มีบทบาทเรื่องการรักษาสุขอนามัยของร้านอาหาร โดยเฉพาะสตรีทฟู้ด หรือ ร้านอาหารข้างทาง ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ที่นักท่องเที่ยวชื่นชอบ ต้องมีมาตรฐานด้านความสะอาด ปลอดภัยสร้างความเชื่อมั่นได้ ส่วนกระทรวงมหาดไทย ก็ขอความร่วมมือให้กวดขันเรื่องการดูแลความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว ป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาอาชญากรรมที่เป็นภัยต่อชีวิตและทรัพย์สิน ด้านกระทรวงคมนาคม ขอให้เข้ามาปรับปรุงเรื่องระบบขนส่งคมนาคมให้มีคุณภาพ และกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ขอความร่วมมือในการมาร่วมกำหนดเขตพื้นที่อุทยาน และวนอุทยาน ที่พร้อมรองรับนักท่องเที่ยว และแบ่งเขตพื้นที่สงวนให้ชัดเจน
“เรามองว่า การที่จะผลักดันให้การส่งเสริมท่องเที่ยววิถีไทยเ ป็นแผนงานระยะยาวต่อเนื่องไปจนถึงปี 59 ด้วย เนื่องจากประเมินว่าสามารถตอบสนองกับแนวโน้มการท่องเที่ยวโลก ที่เน้นการเข้าถึงวิถีชีวิต ความเป็นอยู่ ของประเทศจุดหมายปลายทางมากขึ้น ซึ่งคาดว่าการจะทำให้ไทย เป็นแหล่งท่องเที่ยวแบบวิถีไทยได้อย่างแท้จริง ต้องใช้เวลาสร้างไม่ต่ำกว่า 5 ปี โดยจะใช้การทำงานในปี 58 เป็นปีแรก มาวิเคราะห์จุดแข็ง จุดอ่อน เพื่อนำมาเป็นข้อมูล ในการกำหนดแผนที่เหมาะสมในระยะยาวตั้งแต่ปี 59 เป็นต้นไป อย่างไรก็ดี ปีหน้าจะเตรียมการเปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่เป็นทางการ ในงานไอทีบีเบอร์ลินด้วย”
ทั้งนี้ บทบาทหลักของ ททท.หลังการประกาศปีท่องเที่ยววิถีไทย จะเน้น หลัก 3 ส. คือ ส่งเสริมการตลาด สอดส่องดูแลปัญหาและอุปสรรคที่เกิดขึ้นในแหล่งท่องเที่ยวต่าง ๆ และ เสนอแนะแนวแก้ไขปัญหา โดยนำเสนอโดยตรงในระดับท้องถิ่นหากอยู่ในอำนาจการแก้ไขของหน่วยงานระดับจังหวัด หรือนำเสนอการแก้ไขในเชิงนโยบาย หากเป็นปัญหาที่ต้องแก้ไข ในเชิงกฎหมายหรือกฎระเบียบต่าง ๆ
นายธวัชชัย กล่าวว่า ปีหน้าจะมีการตั้งคณะทำงานร่วมกันระหว่างกระทรวงการท่องเที่ยวและททท.เป็นครั้งแรก เพื่อจะได้ทำงานประสานกันใกล้ชิดมากขึ้น ทั้งด้านแผนงาน และงบประมาณ เพื่อไม่ให้เกิดความซ้ำซ้อน โดยเฉพาะด้านการกำหนดเป้าหมายด้านการท่องเที่ยว ต่อไปก็จะต้องอยู่ในทิศทางเดียวกัน โดยโครงสร้างของคณะทำงาน จะหารือร่วมกับกระทรวงการท่องเที่ยวฯ อีกครั้ง โดยอาจจะอยู่ภายใต้คณะกรรมการนโยบายท่องเที่ยวแห่งชาติ (ท.ท.ช.) หรือเป็นการตั้งขึ้นภายใต้คณะกรรมการ ททท.
“ต่อไปนี้ ททท.ต้องพร้อมวางแผนพัฒนาร่วมกับกระทรวงการท่องเที่ยวมากขึ้น และจะร่วมแชร์ข้อมูลเชิงลึกด้านการตลาดท่องเที่ยวที่ต่อไป จะจัดเก็บอย่างเป็นระบบ ครอบคลุมมากขึ้น อาทิ จัดเก็บสถิติการใช้จ่าย การเข้าพักโรงแรมของนักท่องเที่ยวต่างชาติ เมื่อเดินทางมาไทย ถือเป็นแหล่งข้อมูลขนาดใหญ่ (บิ๊กดาต้า) ที่จะได้เห็นในเร็ว ๆ นี้ เพื่อที่จะได้นำข้อมูลดังกล่าวมาให้ภาคธุรกิจร่วมใช้ในการวางแผนธุรกิจ และตอบสนองตลาดได้ตรงความต้องการ”
นอกจากนี้ ททท.ยังเตรียมจับตาปัญหาต่าง ๆ ในยุโรปว่าจะมีผลต่อการท่องเที่ยวหรือไม่ คือ เศรษฐกิจในกลุ่มยุโรป ที่ยังไม่ฟื้นตัว และอาจต้องรอดูว่าจะมีการประกาศมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเชิงปิรมาณ (คิวอี) หรือไม่ ซึ่งหากมี ก็อาจจะพยุงสถานการณ์ท่องเที่ยวได้ระดับหนึ่ง นอกจากนี้ยังมีปัญหาทางการเมือง ที่เกิดประเด็นขัดแย้งระหว่างชาติตะวันตกอื่น ๆ กับรัสเซียที่น่ากังวลเช่นกันว่าเริ่มส่งผลต่อระบบเศรษฐกิจ
ที่มา : www.dailynews.co.th