สยาม รามสูต ชี้แนวโน้มธุรกิจความงามทั้งด้านการเสริมความงามและธุรกิจเครื่องสำอางของไทยในประเทศเพื่อนบ้าน มีแนวโน้มเติบโตอย่างก้าวกระโดด
ธุรกิจความงามไทยบูมในประเทศเพื่อนบ้าน แบรนด์ไทยจ่อขยายสาขาเพิ่มกว่า 10 สาขา
นายสยาม รามสูต กรรมการผู้จัดการบริษัท สยามอินเตอร์เนชั่นแนล เปิดเผยว่า แนวโน้มธุรกิจความงามทั้งด้านการเสริมความงามและธุรกิจเครื่องสำอางของไทยในประเทศเพื่อนบ้าน มีแนวโน้มเติบโตอย่างก้าวกระโดด เนื่องจากคนในประเทศเพื่อนบ้านมีรายได้เพิ่มขึ้น จึงหันมาให้ความสำคัญกับเรื่องความงามและสุขภาพมากขึ้น
ที่ผ่านมา บริษัทได้ซื้อแฟรนไชส์ วุฒิ-ศักดิ์ คลินิก และร้านจำหน่ายเครื่องสำอาง บิวตี้บุฟเฟ่ต์ ไปเปิดให้บริการในประเทศเวียดนาม กัมพูชา พม่า และลาว โดยใน 4 ประเทศมีสาขาของวุฒิ-ศักดิ์ คลินิก ทั้งหมด 12 สาขา ได้แก่ ลาว 4 สาขา พม่า 2 สาขา กัมพูชา 4 สาขา และเวียดนาม 2 สาขา โดยลาวเป็นตลาดที่มียอดขายและการเติบโตมากที่สุด ขณะที่การแข่งขันในเวียดนามสูงมาก
สำหรับปี 2558 คาดว่าจะมีการขยายสาขาของวุฒิ-ศักดิ์ คลินิก เพิ่มอีก 10 สาขา ใน 4 ประเทศ รวมถึงจะเริ่มขยายสาขาในประเทศมาเลเซีย ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย ด้วย
ทั้งนี้ การบริการของทุกสาขาจะมีมาตรฐานเดียวกับในประเทศไทย โดยจะใช้พนักงานท้องถิ่นในทุกประเทศ ยกเว้นในประเทศลาวที่ใช้พนักงานคนไทยทั้งหมด
ขณะที่ร้านบิวตี้บุฟเฟ่ต์ ปัจจุบันมี 16 สาขา ประกอบด้วย ลาว 2 สาขา กัมพูชา 5 สาขา พม่า 2 สาขา และเวียดนาม 7 สาขา โดยบิวตี้บุฟเฟ่ต์ในประเทศกัมพูชาจะขายดีที่สุด แต่ต่อไปในอนาคตมองว่าเวียดนามจะแซงขึ้นมาเป็นตลาดอันดับ 1 โดยในปี 2558 บริษัทวางแผนจะขยายสาขาบิวตี้บุฟเฟ่ต์เพิ่มอีก 20-30 สาขา ใน 4 ประเทศเช่นเดียวกัน
นายสยาม กล่าวต่อว่า สำหรับในประเทศเพื่อนบ้านสินค้าเครื่องสำอางของไทยสามารถเทียบเคียงกับสินค้าจากเกาหลีและญี่ปุ่นได้ แต่ราคาย่อมเยากว่า ขณะที่คุณสมบัติสินค้าเหมาะกับผิวพรรณของคนในประเทศเพื่อนบ้านมากกว่า เนื่องจากประเทศในแถบนี้เป็นเมืองร้อนมีผิวพรรณคล้ายกับคนไทย อากาศคล้ายกัน ทำให้การพัฒนาสินค้าเป็นไปในทิศทางเดียวและเข้ากับสภาพผิวมากกว่าจึงเป็นจุดได้เปรียบ
"เดิมตลาดประเทศเพื่อนบ้านจะนิยมสินค้าจากเมืองไทยมาก แต่ปัจจุบันเริ่มมีเครื่องสำอางจากเกาหลี ญี่ปุ่น เข้ามาตีตลาด แต่สินค้าไทยยังมีความได้เปรียบในเรื่องราคา และคุณภาพของสินค้าไทยที่ ไม่แพ้สินค้าจากประเทศอื่น ซึ่งในอนาคตตลาดความงามในประเทศเพื่อนบ้านจะเติบโตได้อีกมาก" นายสยาม กล่าว
ที่มา : www.posttoday.com
