พาณิชย์เตรียมโปรเจ็กต์ "หนูณิชย์...พาช็อป" ช่วยผู้ประกอบการ

พาณิชย์เตรียมโปรเจ็กต์ใหม่ "หนูณิชย์...พาช็อป" จัดตลาดนัดทุกวันศุกร์ขายสินค้า-อาหารราคาถูก นำร่อง 3 พื้นที่ใน กทม. ก่อนขยายจัดใหญ่ทั่วประเทศ ถก ผู้ผลิตร่วมโครงการ เผยโชห่วยไทย 8 แสนราย ปรับตัวสู้ศึกค้าปลีก




    พาณิชย์เตรียมโปรเจ็กต์ใหม่ "หนูณิชย์...พาช็อป" จัดตลาดนัดทุกวันศุกร์ขายสินค้า-อาหารราคาถูก นำร่อง 3 พื้นที่ใน กทม. ก่อนขยายจัดใหญ่ทั่วประเทศ ถก ผู้ผลิตร่วมโครงการ เผยโชห่วยไทย 8 แสนราย ปรับตัวสู้ศึกค้าปลีก

    น.ส.ชุติมา บุณยประภัศร ปลัดกระทรวงพาณิชย์ กล่าวภายหลังเป็นประธาน "ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือมอบทุนค้าปลีกสำหรับบุตรหลานโชห่วย เรียนที่ปัญญา ภิวัฒน์ฯ ระหว่างกระทรวงพาณิชย์และสมาคมพัฒนา ผู้ประกอบการธุรกิจค้าปลีกทุนไทย" ว่า มอบหมายให้อธิบดีกรมการค้าภายในเจรจากับผู้ว่าราชการจังหวัด ขอพื้นที่จัดงานตลาดนัดวันศุกร์ หรือถนนคนเดินทั่วประเทศ ตามโครงการ "หนูณิชย์ ...พาช็อป"

    กระทรวงพาณิชย์จะร่วมมือกับผู้ประกอบการ นำสินค้ามาจำหน่ายในราคาถูกกว่าท้องตลาดเพื่อลดค่าครองชีพให้กับประชาชน เบื้องต้นจะนำร่องในพื้นที่กรุงเทพฯ 3 แห่ง ก่อนและจะเริ่มจัดงานได้ในช่วงต้นปี 2558

    "ตอนนี้กระทรวงพาณิชย์มีโครงการหนูณิชย์...พาชิม ซึ่งเป็นการจำหน่ายอาหารจานด่วนในราคา 25-35 บาท และมีร้านค้าเข้ามาร่วมโครงการจำนวนมาก ต่อไปก็จะเป็นโครงการ หนูณิชย์...พาช็อป เบื้องต้นจะนำสินค้าประเภทเสื้อผ้า เครื่องแต่งกาย ไข่ไก่ เนื้อหมู เครื่องใช้ต่างๆ และร้านอาหารมาจำหน่ายในงานราคาถูก ซึ่งอยู่ระหว่างการเจรจากับผู้ประกอบการ และผู้ว่าราชการกรุงเทพฯ เพื่อนำร่องขอให้พื้นที่ว่างและมีการสัญจรสะดวก ใน 3 พื้นที่ก่อนจากนั้นก็จะขยายไปจังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศ"

    ในส่วนของนโยบายการช่วยเหลือร้านโชห่วยเพื่อรอง รับการแข่งขันการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี) ในปี 2558 นั้น กระทรวงพาณิชย์ร่วมมือกับสมาคมพัฒนาผู้ประกอบการธุรกิจค้าปลีกทุนไทย ให้ความรู้แก่ร้านค้าและผู้ประกอบการค้าปลีกให้สามารถบริหารจัดการ ด้านต่างๆ ได้ รวมถึงการส่งเสริมการให้ความรู้แก่ทายาทของร้านค้าเพื่อนำแนวทางในการพัฒนาร้านค้าในอนาคต

    ด้านนายสันติชัย สารถวัลย์แพทย์ รองอธิบดีกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่าร้านค้าโชห่วยรายย่อยราว 8 แสนราย ปรับตัวในทิศทางที่เก่งขึ้น เพื่อเอาตัวรอดตามสถานการณ์เศรษฐกิจและสถานการณ์แข่งขันรุนแรง โดยหลายรายเปลี่ยนกลยุทธ์จากเดิมที่รอขายของในร้านค้าอย่างเดียว เป็นการเพิ่มจากเลือกแก่ลูกค้าโดยการนำสินค้าใส่ในรถกระบะที่มีหลังคาแล้วไปขายตามหมู่บ้านหรือตลาดนัดต่างๆ ซึ่งสามารถเข้าถึงลูกค้าได้อีกด้วย

ที่มา : นสพ.ข่าวสด

NEWS & TRENDS