ขนส่งรวมพลต้านขึ้นราคาก๊าซเอ็นจีวี อ้างต้นทุนสูงแบกไม่ไหว ขู่บุกพลังงานไล่"พิชัย"

ขนส่งรวมพลต้านขึ้นราคาก๊าซเอ็นจีวี อ้างต้นทุนสูงแบกไม่ไหว ขู่บุกพลังงานไล่"พิชัย"

        ผู้ประกอบการขนส่งออกแถลงการณ์คัดค้านรัฐบาลลอยตัวก๊าซเอ็นจีวี อ้างดันต้นทุนพุ่ง เตรียมโขกค่าโดยสารเพิ่ม พร้อมรวมพล 9 มกราคม 55 บุกพลังงาน ตะเพิด"พิชัย"ลงจากตำแหน่ง

        เมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2554 สหพันธ์ขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย และกลุ่มผู้ประกอบการรถโดยสารได้ประชุมร่วมกันเพื่อพิจารณาถึงผลกระทบที่ได้รับจากนโยบายการปรับขึ้นของราคาก๊าซธรรมชาติหรือเอ็นจีวีของรัฐบาล

        โดยนายยู เจียรยืนยงพงศ์ ประธานสหพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทยเปิดเผยว่า ที่ประชุมมีมติออกแถลงการณ์คัดค้านการปรับขึ้นราคาก๊าซเอ็นจีวีกิโลกรัมละ 6 บาทโดยจะทยอยปรับขึ้นตั้งแต่วันที่16 มกราคมถึงเดือนธันวาคมรวม12ครั้งๆละ0.50บาท จะส่งผลให้ราคาก๊าซที่ปัจจุบัน8.50บาทจะขยับขึ้นเป็น16.50บาท

         ทั้งนี้หากรัฐบาลยืนยันที่จะปรับขึ้นรัฐบาลโดยเฉพาะกระทรวงพลังงานต้องออกนโยบายเพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบพร้อมกันนี้ในวันที่ 9 มกราคม 2555 ผู้ประกอบการขนส่งจะไปรวมตัวกันที่กระทรวงพลังงานเพื่อยื่นข้อเรียกร้องให้นายพิชัย นริพทะพันธ์ ลาออกจากตำแหน่งเพื่อแสดงความรับผิดชอบ

         "การปรับขึ้นราคาก๊าซเอ็นจีวีย่อมส่งผลให้ราคาค่าขนส่งเพิ่มขึ้นแน่นอนเนื่องจาก มีราคาสูงขึ้นถึง70%โดยจะส่งผลให้ต้นทุนการขนส่งสินค้าสูงขึ้น20%ปัจจุบันต้นทุนในการขนส่งสินค้าอยู่ตันละที่ 1.30 บาทต่อกิโลเมตรจะขยับขึ้นมาที่1.56บาทจะส่งผลกระทบต่อประชาชนซึ่งหากไม่มีแนวทางในการให้ความช่วยเหลือก็จะรวมตัวกันเพื่อขอคำตอบที่กระทรวงพลังงานและปตท.ในวันที่ 9 มกราคมนี้และสหพันธ์จะเคลื่อนไหวเพื่อคัดค้านการปรับขึ้นราคาก๊าซจนถึงที่สุด"

          การใช้ก๊าซเอ็นจีวีนั้นมีความสิ้นเปลืองกว่าการใช้น้ำมันดีเซลกว่า40% และที่ผ่านมามีการเปิดเผยว่าราคาก๊าซเอ็นจีวีของไทยต่ำกว่าประเทศอื่นๆนั้นเป็นการพูดความจริงไม่หมด เนื่องจากก๊าซเอ็นจีวีของไทยมีค่ามีเทนที่ต่ำกว่าก๊าซของต่างประเทศ นอกจากนี้ปตท.ได้มีการเติมก๊าซคาร์บอนไดออกไซน์เข้าไปอีกทำให้คุณภาพของก๊าซเอ็นจีวีต่ำลงมีความร้อนน้อยลง

         นายวิฑูรย์ แนวพานิช ประธานกรรมการชุมชนสหกรณ์เดินรถแห่งประเทศไทย จำกัด กล่าวว่าได้รับผลกระทบจากการปรับขึ้นราคาก๊าซเอ็นจีวีอย่างมากเนื่องจากปัจจุบันค่าบริการรถแท็กซี่เริ่มต้นที่ 35 บาท ถูกกำหนดมาตั้งแต่ปี2538 หากจะขึ้นราคาค่าก๊าซอีกจะส่งผลให้ไม่สามารถให้บริการได้ ปัจจุบันมีผู้ประกอบการแท็กซี่กว่า 70,000 คันได้รวมตัวและประชุมเพื่อหาแนวทางในการเคลื่อนไหว โดยจะเคลื่อนไหวร่วมกับสหพันธ์เป็นหลัก

        โดยแนวทางในการเคลื่อนไหวของกลุ่มแท็กซี่นั้นหากรัฐบาลไม่มีมาตรการให้ความช่วยเหลือและยังคงยืนยันจะปรับขึ้นราคาก๊าซเอ็นจีวี ก็จะปรับขึ้นราคาค่าโดยสารนอกมิเตอร์อีก20บาท โดยจะเริ่มปรับวันแรกในวันที่ 16 มกราคม 2555 จะส่งผลให้ราคาค่าโดยสารเพิ่มขึ้นจากเดิมที่เริ่มต้นทุน 35 บาทขยับเป็น 55 บาทซึ่งการปรับขึ้นดังกล่าวยอมรับว่าเป็นการทำผิดกฎหมาย และหากไม่สามารถดำเนินการใดๆได้ก็พร้อมจะรวมตัวกันเพื่อปิดถนนซึ่งจะใช้เป็นแนวทางสุดท้าย

         นางภัทรวดี กล่อมจรูญ นายกสมาคมผู้ประกอบการรถโดยสารประจำทาง กล่าวว่า ในส่วนของรถโดยสารและรถเมล์เล็กมินิบัสร่วมบริการนั้นได้รับผลกระทบเป็นอย่างมาก เนื่องจากองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.)ได้ออกข้อบังคับให้รถร่วมใช้เอ็นจีวีทั้งหมด หากจะปรับขึ้นจริงรถร่วมจะยื่นเรื่องเพื่อขอปรับขึ้นราคาค่าโดยสารตามกฎหมายและหากไม่ได้รับการตอบรับ อาจหยุดวิ่งเพราะแบกภาระต้นทุนที่สูงขึ้นไม่ไหว

         นายสมชาย พรรัตนเจริญ นายกสมาคมการค้าส่ง-ปลีกไทย กล่าวว่าการขึ้นราคาก๊าซเชื่อว่าภาคการขนส่งได้รับผลกระทบซึ่งจะส่งผลต่อเนื่องถึงต่อต้นทุนสินค้าที่ต้องปรับราคาขึ้นเพราะผู้ประกอบการเองก็ต้องมีกำไร แต่ถึงแม้ว่าจำเป็นต้องปรับราคาสินค้าก็จะให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมไม่เอาเปรียบประชาชน 

ที่มา : แนวหน้า

NEWS & TRENDS