นายเพ็ชร ชินบุตร ผู้อำนวยการสถาบันอาหาร เปิดเผยว่า ได้ตั้งเป้าหมายมูลค่าการส่งออกอุตสาหกรรมอาหารปีหน้า มีมูลค่า 1 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้นประมาณ 3 -4% เมื่อเทียบกับปีนี้
นายเพ็ชร ชินบุตร ผู้อำนวยการสถาบันอาหาร เปิดเผยว่า ได้ตั้งเป้าหมายมูลค่าการส่งออกอุตสาหกรรมอาหารปีหน้า มีมูลค่า 1 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้นประมาณ 3 -4% เมื่อเทียบกับปีนี้ที่คาดว่า มีมูลค่าการส่งออกอุตฯ อาหาร 970,000 ล้านบาท เนื่องจากการส่งออกสินค้าอาหารไปยังประเทศจีนจะมีมากขึ้น ตามความต้องการของประเทศจีน และการส่งออกไปยังประเทศในกลุ่มประเทศอาเซียน ยังมีแนวโน้มขยายตัวอย่างต่อเนื่อง แต่หากสินค้าในกลุ่มอาหาร ได้รับผลกระทบจากโรคระบาด เช่น กุ้ง อาจส่งผลกระทบทำให้ยอดการส่งออกไม่ถึง 1 ล้านล้านบาท
“สถาบันอาหารได้กลับมาตั้งเป้ามูลการส่งออกอุตฯ อาหารที่ 1 ล้านล้านบาทอีกครั้ง หลังจากเริ่มเห็นแนวโน้มความต้องการสินค้าในกลุ่มนี้มากขึ้น โดยเฉพาะจีน และกลุ่มอาเซียน แต่ต้องไม่มีปัจจัยเสี่ยงเรื่องโรคระบาด เข้ามาแทรก ซึ่งผมจะรายงานตัวเลขและแนวโน้มสถานการณ์ต่างๆ รวมทั้งแผนการดำเนินงานในปี 2558 เพื่อให้มูลค่าการส่งออกเป็นไปตามเป้าและแผนการยกระดับอุตฯอาหาร ในที่ประชุมคณะกรรมการสถาบันอาหาร ที่เพิ่งแต่งตั้งนางอรรชกา สีบุญเรือง ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม เป็นประธานบอร์ดเมื่อเร็วๆ นี้ โดยจะประชุมนัดแรกภายในเดือน ธ.ค.นี้”นายเพ็ชรกล่าว
ในเบื้องต้น สถาบันอาหาร จะเร่งเพิ่มการส่งออกอาหารแปรรูปมากขึ้น เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้า จากปัจจุบันที่การส่งออกอาหารในลักษณะวัตถุดิบ 80% มีการส่งออกอาหารแปรรูปเพียง 20% เท่านั้น เนื่องจากขณะนี้แนวโน้มสินค้าแปรรูป ได้รับความนิยมจากตลาดประเทศพัฒนาแล้วมากขึ้น และมีมูลค่าการส่งออกที่ดีกว่า ส่งออกในรูปแบบวัตถุดิบเพียงอย่างเดียว
ส่วนกรณีที่รัฐบาล ต้องการให้ไทยเป็น ศูนย์กลางอาหารสุภาพ (ฮับ)นั้น ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ไทยได้ส่งออกอาหารกลุ่มสุขภาพ โดยเฉพาะอาหารผู้สูงอายุ ไปยังประเทศญี่ปุ่นอย่างต่อเนื่องอยู่แล้ว ซึ่งหากต้องการให้ไทยเป็นฮับอาหารในกลุ่มนี้ ต่อไปจะมีการประสานร่วมกับหน่วยงานอื่นๆ มากขึ้น เช่น กระทรวงพาณิชย์ เพื่อทำการตลาดให้เกิดกระแสมากขึ้น ไม่ใช่เฉพาะในประเทศญี่ปุ่นเท่านั้น แต่จะโปรโมทในประเทศอื่นๆ เพิ่มมากขึ้นด้วย
ที่มา : แนวหน้า