เอกชนรับ บรรยากาศการซื้อของขวัญปีใหม่ไม่มี ลูกค้าหาย รายได้หด กำลังซื้อไม่มาจริง ต้องควักเนื้อขยายวงเงินสด สร้างสภาพคล่องปลายปี
เอกชนรับ บรรยากาศการซื้อของขวัญปีใหม่ไม่มี ลูกค้าหาย รายได้หด กำลังซื้อไม่มาจริง ต้องควักเนื้อขยายวงเงินสด สร้างสภาพคล่องปลายปี
นายมิลินทร์ วีระรัตนโรจน์ ผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อและการตลาด บริษัท ตั้งงี่สุน ซุปเปอร์สโตร์ จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจค้าปลีก-ส่งรายใหญ่ประจำภาคอีสาน เปิดเผยว่า บรรยากาศการจับจ่ายสินค้าในช่วงเทศกาลปีใหม่ปลายปีนี้ซบเซามาก เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า ซึ่งคาดว่าสาเหตุหลักมาจากปัญหาการเศรษฐกิจที่ยังไม่ฟื้นตัวดีขึ้นเลยตั้งแต่ต้นปี ทำให้ลูกค้าซื้อสินค้าลดลงเกือบ 50% และขณะนี้ยังไม่เห็นสัญญานกำลังซื้อที่เพิ่มขึ้นเลย ตั้งแต่เดือนต.ค. จากเดิมที่ปกติ ต้องมียอดคำสั่งซื้อเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ทำให้คาดว่ายอดขายสินค้าปลายปีนี้จะไม่เติบโตเลย จากที่เคยเพิ่มขึ้น 5-10% จากช่วงอื่น ๆ ของปี
“ยอมรับว่า ปีนี้เป็นปีที่แย่ที่สุด ตั้งแต่ทำธุรกิจมาเลย เพราะคนไม่มีเงินมาซื้อของ ทำให้ขณะนี้ลูกค้าที่มาซื้อสินค้าก็หายไป 30-40% เลย เมื่อรายได้หายไปบริษัทจึงต้องควักเงินกว่า 50 ล้านบาท เพื่อเข้ามาขยายวงเงินสด ให้มีเงินหมุนเวียน จากที่อดีตช่วงนี้ เป็นช่วงที่ต้องมีรายได้เพิ่มขึ้น และดึงเงินออกไปใช้ได้แล้ว อย่างไรก็ตาม บริษัทก็มีหวังว่าช่วงต้นปีหน้า สินค้าปีใหม่อาจจะขายดีขึ้น หากบริษัทต่าง ๆ มีการจ่ายโบนัสออกมา แต่โดยภาพรวม คาดว่าตลอดทั้งปีนี้ รายได้ของบริษัทคงจะเติบโตน้อยลงกว่าปีก่อนถึง 20%”
ทั้งนี้สินค้าที่เคยขายดีในช่วงปีใหม่ เช่น กระเช้าของขวัญ รังนก ที่ปกติยอดขายจะเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัดตั้งแต่เดือน พ.ย. แต่ขณะนี้เดือนธ.ค.แล้ว ยังไม่ค่อยมีผู้เข้ามาซื้อมามากนัก นอกจากนี้ สินค้าพิเศษที่ขายดีทุกฤดู อาทิ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ บุหรี่ ยอดขายก็ยังไม่เพิ่มขึ้น โดยลูกค้ายังคงบริโภค แต่ลดปริมาณลง ทำให้ความถี่ในการซื้อชะลอออกไป นอกจากนี้ลูกค้าจากประเทศเพื่อนบ้าน ที่เดินทางเข้ามาซื้อสินค้า เช่น ปสส. ลาว เวียดนาม ก็มีจำนวนลดลง โดยเฉพาะชาวลาว ซึ่งทราบว่าสภาพเศรษฐกิจในลาวค่อนข้างชะลอตัว ใกล้เคียงกับไทย ทำให้คนใช้จ่ายน้อยลงเช่นกัน
ด้านนายวรพลวีรชาติยานุกูล กรรมการผู้จัดการ บริษัท อุดรพลาซ่า จำกัด ผู้บริหารศูนย์การค้ายูดี ทาวน์กล่าวว่ายอดการเข้าใช้บริการช่วงปีใหม่นี้ น่าจะยังคึกคักเป็นปกติอยู่ เพราะเห็นสัญญาณของกำลังซื้อที่ฟื้นตัวดีขึ้น ตั้งแต่กลางปี หลังสถานการณ์การเมืองผ่อนคลาย คนก็กลับมาใช้จ่ายเพิ่มขึ้น ประกอบกับผู้ใช้บริการส่วนใหญ่ค่อนข้างมีรายได้ คือ 50% ของลูกค้าเป็นผู้ที่มีรายได้ระดับกลางไปถึงสูง และอีก 50% เป็นลูกค้าระดับกลาง บริษัทจึงยังไม่ได้รับผลกระทบมากนัก
“ขณะเดียวกัน บริษัทได้จัดโปรโมชั่นต่าง ๆ เพื่อดึงลูกค้าให้มียอดการใช้จ่ายเพิ่มขึ้นตลอดเวลาอยู่แล้ว แต่เราโชคดีกว่าคนอื่น โดยเราขายอาหารเป็นหลักหรือเป็น 40% ของพื้นที่ขายทั้งหมด ทำให้ไม่ค่อยได้รับผลกระทบจากปัญหากำลังซื้อมาก แต่ผู้ที่จำหน่ายข้าวของเครื่องใช้ โดยเฉพาะสินค้าแฟชั่น ที่ถือเป็นสินค้าฟุ่มเฟือย จะได้รับผลกระทบต่อเศรษฐกิจโดยตรง
ที่มา เดลินิวส์ (www.dailynews.co.th)