เอสเอ็มอีแบงก์ ร่วมมือพันธมิตรญี่ปุ่น นัดพบผู้ประกอบการกว่า 300 กิจการ จับคู่เชื่อมโยงธุรกิจ ส่งเสริมการค้าการลงทุน SMEs ของทั้ง 2 ประเทศ เน้นกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ และเกษตรกรรม ร่วมกันสร้างเครือข่ายความร่วมมือต่อยอดธุรกิจระหว่างกัน
เอสเอ็มอีแบงก์ ร่วมมือพันธมิตรญี่ปุ่น นัดพบผู้ประกอบการกว่า 300 กิจการ จับคู่เชื่อมโยงธุรกิจ ส่งเสริมการค้าการลงทุน SMEs ของทั้ง 2 ประเทศ เน้นกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ และเกษตรกรรม ร่วมกันสร้างเครือข่ายความร่วมมือต่อยอดธุรกิจระหว่างกัน
เมื่อวันที่ 11 ธันวาคม 2558 ที่ผ่านมาได้มีการจัดงานโครงการจับคู่ธุรกิจไทย-ญี่ปุ่น (Business Matching) โดยมีนางสาลินี วังตาล ประธานกรรมการธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (เอสเอ็มอีแบงก์) ร่วมกับ Mr. Hiromi MINAKAWA รองผู้ว่าการองค์กรเจเอฟซี (JFC, Japan Finance Corporation, SME Unit) และ Mr.Akira Murakosh รองกรรมการผู้จัดการหอการค้าญี่ปุ่นกรุงเทพ ( JCC , The Japan Chamber of Commerce , Bangkok) โดยร่วมกันเป็นเจ้าภาพจัดงานเชื่อมโยงผู้ประกอบการ SMEs ในภาคธุรกิจอุตสาหกรรมยานยนต์ ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ และภาคการเกษตร รวมถึงธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง ซึ่งงานครั้งนี้ธนาคารจัดขึ้นเป็นครั้งที่ 8 แล้ว มีผู้ประกอบการ SMEs ของทั้งสองประเทศเข้าร่วมงานอย่างคับคั่งกว่า 300 กิจการ ถือว่าเป็นครั้งใหญ่ที่สุดที่ธนาคารเคยจัดมา
ทั้งนี้ การจัดงานดังกล่าว เพื่อสร้างโอกาสให้ผู้ประกอบการ SMEs ได้มีโอกาสแลกเปลี่ยนประสบการณ์พร้อมเชื่อมโยงธุรกิจหรือร่วมลงทุนระหว่างกัน โดยผู้ประกอบการญี่ปุ่นมีโอกาสเข้าถึงแหล่งผู้ผลิตในประเทศไทย อีกทั้งยังเป็นการสร้างบรรยากาศการค้าการลงทุนเพื่อเตรียมความพร้อมรับประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนขณะเดียวกันถ้าผู้ประกอบการต้องการแหล่งเงินทุนธนาคารก็พร้อมให้การสนับสนุนเพื่อเปิดตลาดการค้าระหว่างประเทศต่อไป
สำหรับการจัดกิจกรรมจับคู่ธุรกิจไทย-ญี่ปุ่น ครั้งที่ 8 นี้ มีผู้ประกอบการ SMEs ไทยเข้าร่วมงานประมาณ 50 กิจการ และผู้ประกอบการ SMEs ญี่ปุ่นที่ตั้งกิจการในประเทศไทยและที่บินตรงจากญี่ปุ่นมาเจรจาเพื่อหาผู้ผลิตที่เป็นซัพพลายเออร์ผลิตสินค้าป้อนให้ธุรกิจอีกประมาณ 250 กิจการ เช่น ธุรกิจผลิตอะไหล่และชิ้นส่วนประกอบรถยนต์ ธุรกิจเกษตรแปรรูป รับออกแบบผลิตภัณฑ์ และตัวแทนขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ ทั้งนี้ ผู้ประกอบการที่เข้าร่วมงานจะต้องได้รับมาตรฐานการผลิต อาทิ อย. / ISO / TS16949 หรือเป็นผู้ประกอบการที่มีศักยภาพได้มาตรฐานพร้อมผลักดันสู่ตลาดต่างประเทศต่อไป
