SME โวยถูกกั๊กเงินกู้ฟื้นฟูหลังน้ำท่วม

เอสเอ็มอีแฉถูกแบงก์พาณิชย์บางแห่งเตะถ่วงปล่อยวงเงิน 2.1 แสนล้านบาทเพื่อฟื้นฟูกิจการหลัง น้ำท่วม อ้างอยากกู้ได้เงินเร็วต้องจ่ายดอกเบี้ย 4% จากปกติ 3% ด้านรัฐบาลเต้นชี้ไม่ควรฉวยโอกาสฟันกำไรซ้ำเติมเอสเอ็มอี ทำให้แผนฟื้นฟูล่าช้า ด้านนิคมฯเมินกู้ 1.5 หมื่นล้านบาท ทำคันกั้นน้ำ หวั่นใจแผนบริหารจัดการรัฐบาลไร้ผล ทำปีหน้าน้ำท่วมซ้ำซากทำลงทุนเสียเงินเปล่าประโยชน์

       เอสเอ็มอีแฉถูกแบงก์พาณิชย์บางแห่งเตะถ่วงปล่อยวงเงิน 2.1 แสนล้านบาทเพื่อฟื้นฟูกิจการหลัง น้ำท่วม อ้างอยากกู้ได้เงินเร็วต้องจ่ายดอกเบี้ย 4% จากปกติ 3% ด้านรัฐบาลเต้นชี้ไม่ควรฉวยโอกาสฟันกำไรซ้ำเติมเอสเอ็มอี ทำให้แผนฟื้นฟูล่าช้า ด้านนิคมฯเมินกู้ 1.5 หมื่นล้านบาท ทำคันกั้นน้ำ หวั่นใจแผนบริหารจัดการรัฐบาลไร้ผล ทำปีหน้าน้ำท่วมซ้ำซากทำลงทุนเสียเงินเปล่าประโยชน์

       นายสุภาพ คลี่ขจาย ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ปาฐกถาพิเศษ "ยุทธศาสตร์การฟื้นฟู และแผนการพัฒนาอุตสาหกรรมไทยให้ยั่งยืน" ว่า ขณะนี้ผู้บริหารนิคมอุตสาหกรรมประสบปัญหาเงื่อนไขการกู้เงิน 15,000 ล้านบาท จากธนาคารออมสินเพื่อสร้างคันกั้นน้ำรอบนิคมอุตสาหกรรม เนื่องจากธนาคารระบุให้โรงงานอุตสาหกรรมภายในนิคมฯมาเซ็นสัญญาในการกู้เงินด้วย โดยปัญหาดังกล่าวกระทรวงอุตสาหกรรมจะหารือกับนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ เพื่อลดเงื่อนไขและกฎเกณฑ์ของธนาคารออมสินลงเพราะสร้างปัญหาต่อผู้ประกอบการนิคมฯอย่างมาก

      ทั้งนี้ จากการหารือกับผู้บริหารนิคมอุตสาหกรรมยังมีความกังวลเกี่ยวกับแผนบริหารจัดการน้ำของรัฐบาลว่าจะสามารถป้องกันไม่ให้เกิดน้ำท่วมซ้ำอีกในปีต่อไปหรือไม่ ทำให้บางรายไม่ต้องการกู้เงินเพื่อสร้างคันกั้นน้ำแล้ว เพราะหากมีการลงทุนสร้างคันกั้นน้ำรอบนิคมอุตสาหกรรมแต่บริเวณพื้นที่ภายนอกต้องถูกน้ำท่วม ก็ส่งผลกระทบให้คนงานไม่สามารถเดินทางมาทำงานได้ และโรงงานก็ไม่สามารถส่งสินค้าไปจำหน่ายได้เช่นเดียวกันทำให้มองว่าเป็นการลงทุนที่ไม่คุ้มค่า จึงไม่สนใจที่จะยื่นขอกู้ดังกล่าว

      นอกจากนี้ผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม(เอสเอ็มอี)ยังประสบปัญหาการกู้เงิน ที่รัฐบาลช่วยเหลือวงเงินกว่า 2.1 แสนล้านบาทอัตราดอกเบี้ย 3% คงที่ 3 ปี โดยเบิกจ่ายผ่านธนาคารพาณิชย์15-16 แห่ง แต่ปรากฎว่าเกิดความล่าช้าโดยธนาคารพาณิชย์บางแห่งระบุว่าหากต้องการกู้ ได้เงินเร็วจะคิดอัตราดอกเบี้ยที่ 4%ซึ่งสูงกว่าที่รัฐบาลกำหนด

     "รัฐบาลมีวงเงินกู้ 2.1 แสนล้านบาท เพื่อช่วยเหลือเอสเอ็มอีแต่ตอนนี้ได้ยินเสียงบ่นของผู้ประกอบการหลายรายว่ามีการปล่อยกู้ล่าช้า โดยบางธนาคารแจ้งว่าหากอยากได้เงินเร็วก็จะคิดดอกเบี้ย 4% แต่ถ้าเป็นดอกเบี้ย 3% ต้องรอนานหน่อยซึ่งรัฐบาลจะหารือกับธนาคารพาณิชย์โดย เร็ว เพราะไม่ควรใช้โอกาสนี้ในการเตะถ่วงปล่อยกู้ซึ่งเป็นแบบนี้ไม่ดี ทำให้การฟื้นฟูกิจการล่าช้าไปด้วย เพราะสถานการณ์น้ำท่วมรุนแรงครั้งนี้ทำให้เอสเอ็มอีส่วนใหญ่หมดตัวจริงๆ" นายสุภาพ กล่าว


 
ที่มา : แนวหน้า

NEWS & TRENDS