​เตือน! ผู้ทำบัญชีเร่งยืนยันตัวตน 31 ธันวานี้

กรมพัฒน์ฯ เดินหน้าผลักดันให้เกิดธุรกิจสีขาว และสร้างความเชื่อมั่นให้นักลงทุนไทย-เทศรับเปิด AEC ประกาศเตือนผู้ทำบัญชี 84,760 ราย ต้องขึ้นทะเบียนด่วนก่อนพ้นเส้นตายสิ้นเดือนธ.ค.นี้ และต้องแจ้งรายชื่อธุรกิจที่รับทำบัญชีตามที่กฎหมายกำหนดไม่เกิน 100 ราย ภายใน 30 ม.ค. ปีหน้า


 
                        กรมพัฒน์ฯ เดินหน้าผลักดันให้เกิดธุรกิจสีขาว และสร้างความเชื่อมั่นให้นักลงทุนไทย-เทศรับเปิด AEC ประกาศเตือนผู้ทำบัญชี  84,760 ราย ต้องขึ้นทะเบียนด่วนก่อนพ้นเส้นตายสิ้นเดือนธ.ค.นี้ และต้องแจ้งรายชื่อธุรกิจที่รับทำบัญชีตามที่กฎหมายกำหนดไม่เกิน 100 ราย ภายใน 30 ม.ค. ปีหน้า

                        น.ส.ผ่องพรรณ เจียรวิริยะพันธ์ อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยว่า กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ได้แจ้งเตือนไปยังผู้ทำบัญชีทั่วประเทศกว่า 84,760 ราย ทั้งรายเก่า รายใหม่ ให้แจ้งขึ้นทะเบียนผ่านระบบการให้บริการออนไลน์แก่ผู้ทำบัญชี (e-Accountant) เพื่อยืนยันความมีตัวตนของผู้ทำบัญชี ผ่านเว็บไซต์ www.dbd.go.th โดยต้องแจ้งรายละเอียดเกี่ยวกับผู้ทำบัญชี ภายใน 31 ธันวาคม 2557 นี้ และต้องแจ้งรายชื่อธุรกิจที่รับทำบัญชีได้ไม่เกิน 100 รายต่อปี ให้แล้วเสร็จภายใน 30 มกราคม 2558  หากไม่แจ้งขึ้นทะเบียนจะไม่สามารถนำส่งงบการเงินประจำปี และจะถูกดำเนินการตามกฎหมาย มีโทษปรับไม่เกิน 10,000 บาท
                        “การดำเนินการให้ผู้ทำบัญชีทั่วประเทศมาขึ้นทะเบียน เป็นความร่วมมือของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กับสภาวิชาชีพบัญชีในพระบรมราชูปถัมภ์ ที่ต้องการจัดระเบียบและสร้างฐานข้อมูลของนักบัญชีไทยให้ถูกต้องครบถ้วนและมีประสิทธิภาพ และต้องการดึงให้ผู้ทำบัญชีร่วมผลักดันให้เกิดธุรกิจสีขาวแก่ภาคธุรกิจไทยทั้งระบบเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนทั้งไทยและต่างชาติรองรับการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ในปี 2558  

    ซึ่งการจะเป็นผู้ทำบัญชีให้กับภาคธุรกิจต้องขึ้นทะเบียนเป็นผู้ทำบัญชีหรือสมัครเป็นสมาชิกกับสภาวิชาชีพบัญชีก่อน ตามที่พ.ร.บ.วิชาชีพบัญชี พ.ศ.2547 กำหนด และต้องขึ้นทะเบียนหรือยืนยันตัวตนกับกรมฯ  จึงจะสามารถทำบัญชีได้ และเพื่อเป็นการอำนวยความสะดวก กรมฯ จึงจัดทำระบบ e-Accountant เพื่อเชื่อมโยงข้อมูลของกรมฯ กับสภาวิชาชีพบัญชีฯ เข้าด้วยกัน โดยผู้ทำบัญชีสามารถแจ้งข้อมูลการเป็นผู้ทำบัญชีกับกรมฯ เพียงที่เดียว ใช้แบบฟอร์มเดียว และใช้ชื่อผู้ทำบัญชีในการติดต่อกับทั้ง 2 หน่วยงานได้เลย   ซึ่งช่วยประหยัดเวลาและค่าใช้จ่าย  

    นอกจากนี้ ยังกำหนดรายละเอียดของผู้ทำบัญชีใหม่ โดย  1) ให้แจ้งรายละเอียดเกี่ยวกับผู้ทำบัญชีทางอินเทอร์เน็ตผ่านเว็บไซต์กรมฯ 2) แก้ไขรอบการพัฒนาความรู้ต่อเนื่องของผู้ทำบัญชี (CPD) จากเดิม 27 ชั่วโมง ภายใน 3 ปี เป็น 12 ชั่วโมง ต่อปีปฏิทิน และ 3) แก้ไขจำนวนธุรกิจให้ผู้ทำบัญชีสามารถรับทำบัญชีได้ไม่เกิน 100 รายต่อปีปฏิทินซึ่งผู้ทำบัญชีสามารถแจ้งรายละเอียดได้ทางระบบ e-Accountant”

                        การจัดระเบียบและการสร้างความพร้อมให้กับผู้ทำบัญชีดังกล่าว เป็นการเตรียมพร้อมรองรับการจัดทำงบการเงินและการส่งงบการเงินแบบออนไลน์ (e-filing) ซึ่งขณะนี้กรมฯ ได้มีการติดตั้งระบบรองรับการส่งงบการเงินแบบออนไลน์แล้ว โดยจะเปิดตัวในวันที่ 16 ม.ค.2558 ซึ่งการส่งงบการเงินออนไลน์จะช่วยเพิ่มความสะดวกรวดเร็ว และ    สร้างความโปร่งใสในการทำธุรกิจ ผู้ที่จะใช้ประโยชน์จากงบการเงินสามารถรับทราบข้อมูลได้เร็วขึ้น สำหรับธุรกิจที่อยู่       ในเป้าหมายผลักดันให้มีการยื่นงบการเงินผ่านระบบออนไลน์ ได้แก่ ห้างหุ้นส่วนจดทะเบียน บริษัทจำกัด บริษัทมหาชนจำกัด และนิติบุคคลต่างประเทศที่เข้ามาประกอบธุรกิจในประเทศไทย ซึ่งประกอบธุรกิจหลักๆ เช่น ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ก่อสร้างอาคารทั่วไป ธุรกิจประกันภัย บริษัทที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์ ธนาคารพาณิชย์ ธุรกิจค้าปลีก ค้าส่ง ธุรกิจบริการ และธุรกิจอื่นๆ

NEWS & TRENDS