กรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดตัวนวัตกรรมการให้บริการนำส่งงบการเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ (e-Filing) ในปีใหม่นี้ โดยจะเริ่มให้บริการในวันที่ 16 มกราคม 2558 ซึ่งเป็นวันคล้ายวันสถาปนากรมฯ อันจะมีส่วนช่วยลดความเสี่ยง เลี่ยงค่าปรับ ประหยัดค่าใช้จ่าย พร้อมอำนวยความสะดวกแก่ภาคธุรกิจ
กรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดตัวนวัตกรรมการให้บริการนำส่งงบการเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ (e-Filing) ในปีใหม่นี้ โดยจะเริ่มให้บริการในวันที่ 16 มกราคม 2558 ซึ่งเป็นวันคล้ายวันสถาปนากรมฯ อันจะมีส่วนช่วยลดความเสี่ยง เลี่ยงค่าปรับ ประหยัดค่าใช้จ่าย พร้อมอำนวยความสะดวกแก่ภาคธุรกิจ
นางสาวผ่องพรรณ เจียรวิริยะพันธ์ อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยว่า กรมพัฒนาธุรกิจการค้า เป็นหน่วยงานให้บริการรับงบการเงินจากนิติบุคคลทั่วประเทศ ตามพระราชบัญญัติการบัญชี พ.ศ.2543 ซึ่งกำหนดให้ ห้างหุ้นส่วนจดทะเบียน นิติบุคคลที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายต่างประเทศที่ประกอบธุรกิจในประเทศไทย และกิจการร่วมค้าตามประมวลรัษฎากร นำส่งงบการเงินภายใน 5 เดือนนับแต่วันปิดบัญชี และบริษัทจำกัด หรือบริษัทมหาชนจำกัด นำส่งงบการเงินภายใน 1 เดือนนับแต่วันที่งบการเงินนั้นได้รับอนุมัติจากที่ประชุมใหญ่สามัญผู้ถือหุ้น
ซึ่งภายหลังจากที่นิติบุคคลได้นำส่งงบการเงินต่อกรมพัฒนาธุรกิจการค้าแล้ว กรมฯ จะนำงบการเงินดังกล่าวในรูปแบบของเอกสาร (Hard Copy) แปลงให้เป็นเอกสารอิเล็กทรอนิกส์ และจัดเก็บข้อมูลในรูปเอกสารภาพ (IMAGE) และป้อนข้อมูล (Re-key) เพื่อเก็บข้อมูลที่ต้องการก่อนนำไปประมวลผลต่อในฐานข้อมูลอย่างเป็นระบบ เพื่อนำไปเผยแพร่ บริการข้อมูลงบการเงินให้แก่ประชาชนผู้สนใจโดยกระบวนการเหล่านี้ใช้ระยะเวลาในการดำเนินการไม่ต่ำกว่า 5-6 เดือน ส่งผลให้ผู้ใช้งบการเงินภาครัฐ ภาคเอกชน และธุรกิจไม่สามารถนำข้อมูลไปวิเคราะห์ วางแผนตัดสินใจทางธุรกิจได้ทันต่อเหตุการณ์
กรมพัฒนาธุรกิจการค้า จึงได้จัดทำโครงการให้บริการนำส่งงบการเงินผ่านทางอิเล็กทรอนิกส์ หรือ e-Filing เพื่อเป็นการเพิ่มช่องทางในการนำส่งงบการเงินให้แก่ภาคธุรกิจ โดยจะเริ่มเปิดให้บริการตั้งแต่วันที่ 16 มกราคม 2558 เป็นต้นไป ซึ่งจะทำให้กรมฯ สามารถนำข้อมูลงบการเงินมาประมวลผล วิเคราะห์ และเผยแพร่ให้แก่หน่วยงานทั้งภาครัฐและภาคเอกชนทั้งในรูปแบบของเอกสารภาพและข้อมูลสถิติได้รวดเร็วขึ้นเพื่อให้ผู้ประกอบการ นักลงทุน สถาบันการเงิน หน่วยงานภาครัฐและเอกชนผู้สนใจสามารถนำข้อมูลไปวิเคราะห์ฐานะทางการเงินและผลการดำเนินงานในรอบปีที่ผ่านมาของนิติบุคคล อันจะก่อให้เกิดประโยชน์ในด้านต่างๆ ได้แก่
- การตรวจสอบความถูกต้องและความมีอยู่จริงของธุรกิจเพื่อให้เกิดความเชื่อมั่นในการดำเนินธุรกิจ
- การวิเคราะห์เพื่อวางแผนและตัดสินใจทางธุรกิจ รวมทั้งแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงทางธุรกิจ ประเภทธุรกิจที่มีการขยายตัว ฐานะการเงิน ตลอดจนการประเมินสภาพธุรกิจ เพื่อสร้างศักยภาพการแข่งขัน สร้างโอกาสความร่วมมือทางธุรกิจ และการต่อยอดทางธุรกิจ
- การสร้างโอกาสและลดต้นทุนในการเข้าถึงข้อมูล ทำให้ธุรกิจได้รับความสะดวก รวดเร็วซึ่งจะช่วยลดต้นทุน ในการประกอบธุรกิจ
- การสนับสนุนข้อมูลแก่หน่วยงานภาครัฐเพื่อใช้ในการตรวจสอบและกำกับดูแลธุรกิจ รวมถึงการนำข้อมูลไปใช้ในวางแผนและกำหนดนโยบายในการส่งเสริมและพัฒนาธุรกิจที่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจระดับประเทศ
กรมพัฒนาธุรกิจการค้า จึงขอเชิญชวนผู้ทำบัญชีกว่า 84,000 รายทั่วประเทศ สมัครเข้าอบรมการนำส่ง งบการเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ หรือ e-Filing โดยสามารถติดตามตารางการอบรมได้ทาง www.dbd.go.th ซึ่งการอบรมดังกล่าวสามารถนับชั่วโมง CPD ได้ครึ่งชั่วโมง และนับเป็นเรื่องอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับวิชาชีพบัญชีอีก 2 ชั่วโมงครึ่ง รวมเป็น 3 ชั่วโมง นอกจากนี้สำหรับผู้ทำบัญชีของธุรกิจที่นำส่งงบการเงินทาง e-Filing ยังสามารถนับชั่วโมง CPD ได้อีก 1 ชั่วโมงต่อการนำส่งงบการเงิน 1 งบ โดยผู้ทำบัญชี 1 คน สามารถนำส่งงบการเงินได้ไม่เกิน 100 ราย ตามที่กฎหมายกำหนด และต้องแจ้งรายชื่อธุรกิจที่รับทำบัญชีต่อกรมพัฒนาธุรกิจการค้าภายในวันที่ 30 มกราคม 2558
ทั้งนี้ สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วน 1570 หรือ ส่วนบริหารจัดการข้อมูลธุรกิจ กองข้อมูลธุรกิจ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า โทร. 0 2547 4377, 0 2547 4391