เร่งตั้งตลาดการค้าชายแดนไทย-เมียนมาร์ ฝั่งระนอง-เกาะสอง รองรับการค้าขายชายแดนขยายตัว หลังเข้าสู่ประชาคมอาเซียนปีนี้
เร่งตั้งตลาดการค้าชายแดนไทย-เมียนมาร์ ฝั่งระนอง-เกาะสอง รองรับการค้าขายชายแดนขยายตัว หลังเข้าสู่ประชาคมอาเซียนปีนี้
นายสุริยันต์ กาญจนศิลป์ ผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง กล่าวว่า หลังจากจังหวัดระนองผลักดันให้มีการเปิดจุดตรวจจุดผ่านแดนไทย-เมียนมาร์ แห่งที่ 4 บริเวณท่าเรือศุลกากรระนอง เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้ที่ต้องการข้ามแดนที่มีจำนวนเพิ่ม ขึ้นเรื่อยๆ ล่าสุดได้ต่อยอดในบริเวณพื้นที่ดังกล่าว โดยจัดตั้งตลาดการค้าชายแดนไทย-เมียนมาร์ ด้านจ.ระนอง-เกาะสอง ขึ้นที่บริเวณท่าเทียบเรือศุลกากรระนอง เป็นการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ส่งเสริมการค้าชายแดนของระนองที่คาดว่าจะขยายตัวเพิ่มขึ้นอีกมากหลังจากเปิดเข้าสู่ประชาคมอาเซียนในปี 2558 อีกทั้งยังพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของจังหวัด
ทั้งนี้จังหวัดระนอง มีนโยบายที่จะเปิดจุดผ่านแดนถาวรบริเวณท่าเทียบเรือศุลกากร เพื่อให้สามารถเป็นจุดผ่านแดนของนักท่องเที่ยวและผู้โดยสาร ที่จะเดินทางไปประเทศเมียนมาร์ (จังหวัดเกาะสอง) กรมศุลกากรได้หารือ กับ กรมธนารักษ์ เพื่อพัฒนาพื้นที่หลังท่าเทียบเรือให้เป็นจุดผ่านผู้โดยสาร และตลาดชายแดน สินค้า โอท็อป ประเภทของที่ระลึกและสินค้าอุปโภค บริโภค
ดังนั้นจึงได้ขอการสนับสนุนงบประมาณจากจังหวัดระนอง และกลุ่มจังหวัดอันดามัน เพื่อก่อสร้างสร้างโครงสร้างพื้นฐาน เช่น อาคาร ร้านอาหาร ร้านขายสินค้า เป็นต้น เพื่อพัฒนาเป็นตลาดการค้าชายแดนไทย - เมียนมาร์ สามารถรองรับช่องทางผ่านแดนของประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (ไทย - เมียนมาร์)
นางนฤมล ขรภูมิ ประธานหอการค้าจังหวัดระนอง กล่าวว่า นอกจากการผลักดันการสร้างตลาดการค้าชายแดนเพื่อรับการขยายตัวของการค้าชายแดนด้าน จ.ระนอง-เกาะสอง ภาคเอกชนจังหวัดระนองประกอบด้วยหอการค้าจ.ระนอง,สภาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว จ.ระนอง,สมาคมประมง จ.ระนอง,สมาคมุรกิจการท่องเที่ยว จ.ระนอง ร่วมกับหน่วยงานภาครัฐในพื้นที่ผลักดันจังหวัดระนอง เป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษเมืองระนอง
โดยเน้นการพัฒนาศักยภาพท่าเรือเอนกประสงค์ จังหวัดระนอง เป็นศูนย์กลางทางการค้า สู่อ่าวเบงกอล ด้วยศักยภาพด้านพื้นที่ตั้งของท่าเรือระนอง เหมาะสำหรับการเปิดเส้นทางการเดินเรือ เพื่อเชื่อมโยงการค้าผ่านทางเรือไปยังประเทศต่างๆ ในภูมิภาคเบงกอล แหลมมลายู และสามารถถ่ายลำเรือเพื่อขนส่งต่อเนื่องไปยังประเทศต่างๆ ในทวีปแอฟริกา และยุโรปได้
ที่มา : www.bangkokbiznews.com