พาณิชย์รับลูกนายกนัดถกผู้ประกอบการลดราคาสินค้า

"นายกฯประยุทธ์" สั่งมหาดไทย-พาณิชย์ หาแนวทางลดราคาสินค้าหลังราคาน้ำมันปรับลดแรง แต่ธุรกิจเมินจัดโปรโมชั่นแทน



  

"นายกฯประยุทธ์" สั่งมหาดไทย-พาณิชย์ หาแนวทางลดราคาสินค้าหลังราคาน้ำมันปรับลดแรง แต่ธุรกิจเมินจัดโปรโมชั่นแทน

ราคาน้ำมันที่ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ ส่งผลให้ภาครัฐเริ่มเข้มงวดกับนโยบายราคาสินค้ามากขึ้น หลังจากต้นทุนการผลิตและการขนส่งสินค้าลดลง โดยพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีกำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องหาทางแนวทางลดราคาสินค้าให้กับประชาชน

พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในที่ประชุมครม.นายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้กระทรวงมหาดไทยและกระทรวงพาณิชย์ ไปหามาตรการในการกำหนดราคาสินค้าให้ลดลง โดยให้กำหนดสัดส่วนต้นทุนของสินค้าต่อสัดส่วนราคาน้ำมันให้เหมาะสมกับสถานการณ์ในปัจจุบันเนื่องจากราคาน้ำมันเชื้อเพลิงมีการปรับลดลงอย่างมีนัยสำคัญ

“ที่ผ่านมานายกรัฐมนตรีได้รับรายงาน และพบการร้องเรียนจากประชาชนมาตลอด จึงฝากทั้งสองหน่วยงานติดตามและออกกติกาให้ชัด ไม่ให้ราคาสินค้าสูงเกินกว่าที่จะเป็น โดยหลักการที่ยึดราคาน้ำมันเป็นหลักนั้น อาจต้องเทียบราคาสินค้าทุกๆประเภทว่าเกี่ยวข้องกับราคาน้ำมันอย่างไร เดิมราคาสินค้าตอนที่ราคาน้ำมันขึ้นสูงสุดมีราคาเท่าไหร่ และเมื่อราคาน้ำมันลดลงมาแล้ว ราคาที่แท้จริงของสินค้าต้องมีราคาเท่าใด”พล.ต.สรรเสริญกล่าว

ปรีดิยาธรยันเศรษฐกิจฟื้นตัวต่อเนื่อง

นายกฯยังได้สอบถาม ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกรัฐมนตรี ถึงสถานการณ์เศรษฐกิจปัจจุบัน โดย ม.ร.ว.ปรีดิยาธร ได้รายงานว่า ขณะนี้เศรษฐกิจเริ่มปรับตัวดีขึ้น จนเชื่อว่าในปี 2558 ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ(จีดีพี) ของไทยจะขยายตัวได้ถึง 4% อย่างแน่นอน ซึ่งนายกรัฐมนตรีก็ยืนยันว่าเศรษฐกิจไทยมีความเป็นไปได้ที่จะขยายตัวได้ตามเป้าหมาย เห็นได้จากตัวเลขจีดีพีของปี 2557 ปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่อง โดยในไตรมาสแรก ติดลบ 0.5%ไตรมาสที่ 2 ขยายตัว 0.4% และไตรมาสที่ 3 ขยายตัว 0.6% ขณะที่ไตรมาสสุดท้าย ตามคาดการณ์ของ สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สศช.) คาดว่าจะขยายตัวได้ 3% ดังนั้นทั้งปีจีดีพีน่าจะขยายตัวที่ 1%

พาณิชย์”รับลูกนัดถกผู้ประกอบการ

นางดวงกมล เจียมบุตร โฆษกกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า กระทรวงพาณิชย์จะนัดหารือผู้ประกอบการสินค้ากลุ่มต่างๆ เพื่อหารือถึงการปรับลดราคาสินค้า หลังจากที่ราคาน้ำมันดีเซล ซึ่งเป็นต้นทุนการผลิตและการขนส่งได้ปรับลดลงมามาก โดยล่าสุดได้ปรับลงมาแล้วลิตรละ 3.60 บาทไปอยู่ที่ 26.39 บาทต่อลิตร โดยกระทรวงพาณิชย์ได้มีการติดตามและวิเคราะห์ต้นทุนสินค้ากลุ่มต่างๆ ที่ได้รับผลดีจากราคาน้ำมันดีเซลที่ลดลงมาโดยตลอด และเห็นว่าขณะนี้ราคาน้ำมันดีเซลได้ปรับลดลงมาอย่างเห็นได้ชัดแล้ว

“กำลังนัดหารือกับผู้ผลิตกลุ่มต่างๆ แต่เบื้องต้น เพื่อให้เกิดความรวดเร็ว จะใช้วิธีการหารือเป็นการภายใน อย่างโทรไปพูดคุย เพื่อขอความร่วมมือไปก่อน ใครทำได้ ก็ขอให้ทำเลย เพื่อช่วยลดค่าครองชีพให้กับประชาชน เพราะในเมื่อต้นทุนลดลง ก็ควรจะลดราคาสินค้าลงมาด้วย”นางดวงกมล กล่าว

ทั้งนี้ กลุ่มสินค้าที่จะขอความร่วมมือให้ปรับลดราคา เช่น กลุ่มเหล็ก ปูนซีเมนต์ วัสดุก่อสร้าง และปุ๋ยเคมี เพราะแม้ผลการวิเคราะห์จะได้รับผลดีจากราคาน้ำมันที่ปรับลดลงคิดเป็นเปอร์เซ็นต์ไม่มาก แต่หากซื้อเยอะ ซื้อทีละมากๆ ราคาก็ลดลงมาก ซึ่งต้องมาดูว่าจะปรับลดได้มากน้อยแค่ไหน รวมถึงสินค้าอุปโภคบริโภครายการอื่นๆ ที่มีน้ำหนักเบา หากเห็นว่าลดราคาลงมาได้ ก็จะขอให้ลดลง

อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่ากระทรวงพาณิชย์ไม่ได้นิ่งนอนใจในการดูแลราคาสินค้าให้สอดคล้องกับต้นทุนที่แท้จริง โดยในเรื่องของราคาน้ำมัน ก็ได้มีการติดตามสถานการณ์มาอย่างต่อเนื่อง และเมื่อเห็นได้ชัดเจนว่าน้ำมันมีแนวโน้มลดลงจริง จึงได้เข้าไปดูแลทันที

สำหรับกรณีของเงินเฟ้อเดือนธ.ค.2557 ที่ลดต่ำลงเหลือ 0.60% แต่ประชาชนยังรู้สึกว่าของแพงขึ้น เพราะน้ำหนักในการคำนวณเงินเฟ้อในเดือนธ.ค. ได้รับผลดีจากปัจจัยบวก คือ ราคาน้ำมันที่ลดลงอย่างมาก ทำให้อัตราเฉลี่ยของเงินเฟ้อลดลง

ส่วนราคาอาหารสำเร็จรูปที่ยังสูงขึ้น เนื่องจากวัตถุดิบหลายรายการยังมีการปรับราคาสูงขึ้น รวมถึงก๊าซหุงต้ม พ่อค้าแม่ค้าจึงไม่ยอมปรับลดราคาลง ซึ่งก็ยอมรับว่าในความเป็นจริงคงลดได้ยาก เพราะส่วนใหญ่ขึ้นแล้วจะขึ้นเลย แต่กระทรวงพาณิชย์จะส่งเสริมให้มีร้านอาหารหนูณิชย์พาชิมให้เพิ่มมากขึ้น เพื่อเป็นทางเลือกในการบริโภคอาหารราคาถูกให้กับประชาชน

ธุรกิจยันไม่ลดราคาสินค้า

นายวิเชียร กันตถาวร กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทเกอร์ ดิสทริบิวชั่น แอนด์ โลจิสติกส์ จำกัด ธุรกิจบริการขนส่งในเครือสหพัฒน์ เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้หารือกับคู่ค้าภาคขนส่งสินค้าทางบกที่เป็นบริษัทจัดจ้างภายนอก(เอาท์ซอร์ส) ซึ่งเป็นรถขนาดใหญ่ ที่มีสัดส่วนราว 30% เพื่อลดค่าบริการขนส่งลงประมาณ 30% รับกับสถานการณ์ราคาน้ำมันที่ลดลงต่อเนื่อง โดยจะเริ่มมีผลตั้งแต่วันที่ 15 ม.ค.นี้

ส่วนจะทำให้ผู้ผลิตสินค้าลดราคาสินค้าลงหรือไม่นั้น ไม่สามารถบอกได้ เนื่องจากโครงสร้างการผลิตสินค้าแต่ละรายการ มีห่วงโซ่การผลิต (ซัพพลายเชน) ที่แตกต่างกัน บางรายการสินค้าต้นทุนโลจิสติกส์อาจเป็นต้นทุนส่วนน้อยเมื่อเทียบกับต้นทุนการผลิตรวม แต่ยอมรับว่าต้นทุนการผลิตที่ลดลง อาจทำให้ผู้ผลิตสินค้านำเงินส่วนต่างของต้นทุนที่ลดลง ไปใช้จัดกิจกรรมการตลาดและโปรโมชั่นมากขึ้น

นายทิพย์ ดาลาล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท ทริปเปิล ไอ โลจิสติกส์ กรุ๊ป กล่าวว่า ราคาน้ำมันที่ปรับลดลง ไม่มีผลต่อภาคการขนส่งสินค้ามากนัก เพราะส่วนใหญ่ผู้ประกอบการจะทำข้อตกลงค่าบริการกับลูกค้าไว้ก่อนหน้าแล้ว

ส่วนการขนส่งสินค้าทางอากาศ ส่วนใหญ่จะคำนวณค่าบริการตามน้ำหนักสินค้า และมีค่าธรรมเนียมน้ำมันเชื้อเพลิง(เซอร์ชาร์จ)แยกชัดเจนอยู่แล้ว

สำหรับการขนส่งทางบก น้ำมันคิดเป็นต้นทุนราว 40% ส่วนใหญ่จะเป็นรถ 4 ล้อ ปิกอัพ 6 ล้อ ที่ใช้น้ำมันดีเซล ส่วนรถขนาดใหญ่ เช่น รถหัวลาก รถบรรทุก จะก๊าซธรรมชาติสำหรับรถยนต์(เอ็นจีวี) มีสัดส่วนราว 10-20%

ส่วนราคาน้ำมันที่ลดลง แต่ราคาสินค้าไม่ลดลง ประเมินว่าที่ผ่านมาผู้ผลิตสินค้ามีการแข่งขันด้านราคาอยู่แล้ว ทำให้จำหน่ายสินค้าในราคาต่ำกว่าที่ควรจะเป็นอยู่แล้ว

ไลอ้อนฯแจงวัตถุดิบไม่ลด

นายบุญฤทธิ์ มหามนตรี ประธานกรรมการ บริษัท ไลอ้อน (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคในเครือสหพัฒน์ กล่าวว่า แม้ราคาน้ำมันจะทำให้ต้นทุนการผลิตสินค้าลดลง แต่ในขณะนี้ บริษัทยังไม่มีแผนลดราคาสินค้า เนื่องจากราคาวัตถุดิบ ซึ่งเป็นองค์ประกอบสำคัญของต้นทุนการผลิตยังไม่มีแนวโน้มลดลงตามราคาน้ำมัน

"ถ้าเมื่อไหร่ราคาวัตถุดิบลดลง ก็มีแนวโน้มจะพิจารณาลดราคาสินค้าเช่นกัน"

นอกจากนี้ ต้นทุนโลจิสติกส์ยังคิดเป็น 4-5% ของต้นทุนการผลิตของบริษัทเท่านั้น ถือว่ายังน้อยกว่าต้นทุนวัตถุดิบ ที่ส่วนใหญ่จะนำเข้าจากต่างประเทศ มีเพียงสินค้ากลุ่มแพคเกจจิ้งที่ซื้อภายในประเทศเท่านั้น

ซีพีเอฟฯอัดโปรสินค้าราคาพิเศษ

ด้านนายประสิทธิ์ บุญดวงประเสริฐ รองกรรมการผู้จัดการบริหาร สายธุรกิจการค้าในประเทศและส่งออก บริษัท ซีพีเอฟ เทรดดิ้ง จำกัด ธุรกิจการค้าในเครือเจริญโภคภัณฑ์ (ซี.พี.) กล่าวว่า บริษัทยังไม่มีแผนลดราคาสินค้า เป็นผลมาจากสินค้าส่วนใหญ่ของบริษัทเป็นสินค้าควบคุมราคาอยู่แล้ว อย่างไรก็ดี บริษัทได้นำต้นทุนด้านพลังงานที่ได้รับอานิสงส์จากการปรับลดราคาน้ำมันมาจัดทำในรูปแบบการนำเสนอโปรโมชั่นสินค้าราคาพิเศษ หรือกิจกรรมทางการตลาด เพื่อดึงดูดกำลังซื้อ เพราะยังไม่แน่ใจว่าราคาน้ำมันจะผันผวน ลดราคาลงในช่วงสั้นหรือไม่

แอร์ไลน์ยังไม่ลดราคาตั๋ว

นายวรวุฒิ วงศ์โกสิตกุล ผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการการบิน สายการบินไทยไลอ้อนแอร์ กล่าวว่า ราคาน้ำมันที่ลดลงส่งผลต่อราคาน้ำมันสำหรับเครื่องบิน โดยประเมินว่าเบื้องต้นน่าจะได้รับประโยชน์ด้านต้นทุนที่ลดลง แต่ยังไม่สามารถคำนวณได้ว่ามากน้อยอย่างไร แต่จะยังคงไม่ลดราคาตั๋วโดยสาร เพราะกังวลว่าจะเกิดกระแสความไม่พอใจของผู้ประกอบการรถร่วมโดยสาร ที่เคยนำเสนอประเด็นเรื่องราคาตั๋วของสายการบินโลว์คอสต์ต่อกระทรวงคมนาคม ก่อนหน้านี้


ที่มา : www.bangkokbiznews.com

NEWS & TRENDS