​ดีเดย์ 2 ก.พ.แอลพีจีราคาเดียว "ขนส่ง-ครัวเรือน-อุตสาหกรรม"

ดีเดย์ 2 ก.พ.แอลพีจีราคาเดียว "ขนส่ง-ครัวเรือน-อุตสาหกรรม" เฉลี่ย 16.11บาท/กก. หวังจูงใจโรงแยกก๊าซ-โรงกลั่นผลิตเพิ่ม ลดการนำเข้า เล็งปรับราคา"เอ็นจีวี" แตะเพดานไม่เกิน 16 บาท ชี้กลุ่มปตท.-โรงกลั่นได้ประโยชน์ คาดปตท.มีกำไรเพิ่มปีละกว่าพันล้าน ขณะนักวิเคราะห์ ..


     ดีเดย์ 2 ก.พ.แอลพีจีราคาเดียว "ขนส่ง-ครัวเรือน-อุตสาหกรรม" เฉลี่ย 16.11บาท/กก. หวังจูงใจโรงแยกก๊าซ-โรงกลั่นผลิตเพิ่ม ลดการนำเข้า เล็งปรับราคา"เอ็นจีวี" แตะเพดานไม่เกิน 16 บาท ชี้กลุ่มปตท.-โรงกลั่นได้ประโยชน์ คาดปตท.มีกำไรเพิ่มปีละกว่าพันล้าน ขณะนักวิเคราะห์ ชี้พยุงราคาหุ้น ชดเชยผลกระทบน้ำมันร่วงหนัก

    นายณรงค์ชัย อัครเศรณี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) เมื่อวันที่ 7 ม.ค. ที่ผ่านมา เห็นชอบการกำหนดแนวทางปรับโครงสร้างราคาก๊าซปิโตรเลียมเหลว หรือ แอลพีจีทั้งระบบให้สะท้อนต้นทุนที่เหมาะสม สอดคล้องกับตามมติ ของคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) เมื่อวันที่ 15 ธ.ค. 2557 โดยสูตรโครงสร้างราคาแอลพีจีใหม่ จะเริ่มใช้ตั้งแต่วันที่ 2 ก.พ. 2558 ซึ่งจะไม่กระทบกับราคาขายปลีกในปัจจุบัน

    สูตรโครงสร้างราคาแอลพีจีใหม่ จะกำหนดราคาต้นทุน แอลพีจี ของผู้ใช้ทุกกลุ่ม ทั้งภาคครัวเรือน ขนส่ง อุตสาหกรรม และปิโตรเคมี ให้เป็นราคาเดียวกัน โดยเป็นราคาเฉลี่ยของแอลพีจีที่ผลิตได้จากโรงแยกก๊าซธรรมชาติของปตท. โรงกลั่นน้ำมัน และ จากแอลพีจีนำเข้า ที่มีราคาเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 488 ดอลลาร์ต่อตัน หรือประมาณ 16.11 บาท/ต่อกิโลกรัม และจะมีการบวกเพิ่มภาษีสรรพสามิต ,กองทุนแอลพีจี ที่มีการแยกบัญชีออกมา จากกองทุนน้ำมันเดิม และค่าการตลาด เพื่อกำหนดเป็นราคาขายปลีก

    "กบง.จะมีการประกาศราคาทุกๆ เดือน ในขณะที่ข้อมูลราคาที่ใช้ในการคำนวณ จะมีการปรับเปลี่ยนทุกๆ ไตรมาส"

    นายณรงค์ชัย กล่าวว่า ที่ผ่านมาโครงสร้างราคาแอลพีจี มีการบิดเบือนมานาน เนื่องจากรัฐไปกำหนดราคาต้นทุนตามราคาหน้าโรงแยกก๊าซที่ 333 เหรียญสหรัฐ ซึ่งเป็นราคาที่ต่ำกว่าต้นทุนที่แท้จริงในปัจจุบันมาก ทำให้ปริมาณการใช้แอลพีจีเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และ รัฐต้องใช้เงินของกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงที่เก็บจากทั้งผู้ใช้แอลพีจีและผู้ใช้น้ำมัน มาชดเชยส่วนต่างของราคานำเข้า และโรงกลั่นน้ำมันในขณะที่ ยอมให้โรงแยกก๊าซซึ่งขายแอลพีจีต่ำกว่าต้นทุนให้กับภาคครัวเรือน ,ภาคขนส่งและภาคอุตสาหกรรม ใช้กำไรจากการขายกับกลุ่มอุตสาหกรรมปิโตรเคมีมาชดเชย

    ส่วนราคาก๊าซธรรมชาติสำหรับยานยนต์ (เอ็นจีวี) นั้น จะปรับขึ้นราคาอย่างแน่นอน แต่ไม่เกิน 16 บาทต่อกิโลกรัม จากปัจจุบันตรึงราคาไว้ที่ 12.50 บาท/กิโลกรัม ส่วนกลุ่มผู้มีรายได้น้อย เช่น รถโดยสารสาธารณะ รถแท็กซี่ ที่ปัจจุบันได้รับการช่วยเหลือให้ซื้อในราคาถูกแค่ 9.50 บาท/กิโลกรัมนั้น ในอนาคตหากปรับราคาใหม่กลุ่มผู้มีรายได้น้อยดังกล่าวจะต้องซื้อเอ็นจีวีในราคาที่ปรับขึ้นเท่ากับผู้ใช้เอ็นจีวีรายอื่นด้วย ไม่มีการยกเว้น

    ด้านนายคุรุจิต นาครทรรพ รองปลัดกระทรวงพลังงาน กล่าวว่าการปรับสูตรราคาแอลพีจีใหม่ จะทำให้โรงแยกก๊าซธรรมชาติ โรงกลั่นน้ำมัน ได้รับประโยชน์เพิ่มขึ้น และมีแรงจูงใจที่จะขยายกำลังการผลิตแอลพีจีในประเทศออกมา เพื่อลดการนำเข้า ในอนาคต ในขณะที่กองทุนน้ำมันที่เคยใช้มีภาระชดเชยแอลพีจีปีละ 20,000 ล้านบาท ก็จะมีรายได้จากแอลพีจีประมาณ 2,400 ล้านบาทต่อปี

NEWS & TRENDS