​สทท.ชี้ดัชนีเชื่อมั่น"ท่องเที่ยว"พุ่ง ชง4แผนใหญ่ขับเคลื่อนภาคธุรกิจ-รับเออีซี

สทท.ชี้ดัชนีความเชื่อมั่นดีดกลับต่อเนื่องจากปี"57 คาดปีนี้นักท่องเที่ยวต่างชาติแตะ 28.36 ล้านคน เผยปัจจัยด้านเศรษฐกิจโลก-การเมืองในประเทศยังหนักอก วอนรัฐบาลเร่งปลดล็อกเรื่องอัยการศึก พร้อมดัน 4 โครงการขับเคลื่อนภาคธุรกิจท่องเที่ยว ด้าน "สทน." คาดตลาดในประเทศจะเป็..



    สทท.ชี้ดัชนีความเชื่อมั่นดีดกลับต่อเนื่องจากปี"57 คาดปีนี้นักท่องเที่ยวต่างชาติแตะ 28.36 ล้านคน เผยปัจจัยด้านเศรษฐกิจโลก-การเมืองในประเทศยังหนักอก วอนรัฐบาลเร่งปลดล็อกเรื่องอัยการศึก พร้อมดัน 4 โครงการขับเคลื่อนภาคธุรกิจท่องเที่ยว ด้าน "สทน." คาดตลาดในประเทศจะเป็นบวกครั้งแรกในรอบ 2 ปี ช่วยชดเชยรายได้จากตลาดนักท่องเที่ยวอินบาวนด์ที่หดตัว

    นายอิทธิฤทธิ์ กิ่งเล็ก ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สทท.) เปิดเผยว่า สทท.ได้ร่วมกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) และจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ถึงแนวโน้มจำนวนนักท่องเที่ยวในไตรมาสแรกปี 2558 นี้พบว่า ความเชื่อมั่นของผู้ประกอบธุรกิจการท่องเที่ยว ซึ่งสำรวจก่อนเทศกาลปีใหม่มีดัชนีความเชื่อมั่นอยู่ในระดับปกติที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่องจากไตรมาสที่ 2 ปี 2557 ที่ผ่านมา โดยคาดการณ์จะมีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ 7.55 ล้านคน และคาดว่าหากไม่มีเหตุการณ์ผิดปกติใด ๆ 

    ปีนี้จะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติรวม 28.36 ล้านคน เพิ่มขึ้นราว 14.77% จากปีที่ผ่านมาโดยมีปัจจัยสำคัญคือการเติบโตของนักท่องเที่ยวจีนที่ยังมีแนว โน้มขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่การหดตัวของจำนวนนักท่องเที่ยวจากยุโรปยังคงเป็นปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญต่อภาพรวมการท่องเที่ยวของไทยในปีนี้ อย่างไรก็ตาม ในส่วนของภาคธุรกิจโรงแรม และธุรกิจบริษัทนำเที่ยวนั้นเชื่อว่ายังได้รับผลกระทบอย่างมาก จากการลดลงของนักท่องเที่ยวบางประเทศ เช่น รัสเซีย

    สำหรับปัจจัยที่จะทำให้เป้าหมายรายได้ไม่ถึง 2.2 ล้านล้านบาทนั้น นายอิทธิฤทธิ์กล่าวว่า เป็นเรื่องของเศรษฐกิจโลกที่ยังมีปัญหา และปัญหาการเมืองในไทยที่นักท่องเที่ยวยังไม่มั่นใจในความปลอดภัย จึงอยากให้รัฐบาลเร่งปลดล็อกเรื่องอัยการศึก

    นายอิทธิฤทธิ์กล่าวด้วยว่า เนื่องจากสถานการณ์ในปี 2558 นี้ยังมีความไม่แน่นอน จากความผันผวนทางเศรษฐกิจ การเมือง อุบัติภัยต่าง ๆ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ประกอบกับมีการเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ ของสังคมโลก ซึ่งรวมถึงการรวมกลุ่มประชาคมอาเซียนที่ไทยจะต้องเร่งขับเคลื่อนและเตรียม ความพร้อมอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย ให้มีขีดความสามารถในการสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน สทท.จึงกำหนดจัดทำ 4 โครงการ ประกอบด้วย 

    1.โครงการ Digital Economy for Tourismร่วมกับสำนักงานส่งเสริมอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์แห่งชาติ (SIPA) เพื่อพัฒนาซอฟต์แวร์ให้ผู้ประกอบธุรกิจท่องเที่ยวสามารถนำไปใช้พัฒนาการดำเนินงาน และการตลาด ได้กว้างขวางรวดเร็วยิ่งขึ้น 

    2.โครงการส่งเสริมการท่องเที่ยวตามความสนใจเฉพาะ โดยเฉพาะกลุ่มนักท่องเที่ยวคุณภาพ อาทิ การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพและความงาม การท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม การท่องเที่ยวชุมชน และการท่องเที่ยวกลุ่มประเทศมุสลิม 

    3.โครงการกำหนดมาตรฐานและพัฒนาฝีมือแรงงาน ซึ่งจะร่วมกับกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน เร่งรัดการดำเนินการให้ทันกับการเข้าสู่ประชาคมอาเซียนเพื่อให้แรงงานไทยมี โอกาสเข้าสู่ภาคธุรกิจท่องเที่ยวทั้งในไทยและในอาเซียนให้ได้มากที่สุด 

    และ 4.โครงการพัฒนาเครือข่ายสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย ทั้งในระดับภูมิภาค ระดับชาติและนานาชาติ เพื่อระดมความรู้ความเชี่ยวชาญจากผู้ประกอบการทุกภาคส่วน สร้างความเข้มแข็งให้กับอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยร่วมกันทั้งประเทศ 

    นอกจากนี้ ยังได้นำเสนอมาตรการสร้างความเชื่อมั่นและกระตุ้นตลาดการท่องเที่ยวไทยในปี 2558 โดยขอการสนับสนุนจากรัฐบาลผ่านที่ประชุม กรอ.ใน 3 เรื่องคือ 1.การพัฒนาระบบรักษาความปลอดภัยแก่นักท่องเที่ยว โดยขอให้ทั้งองค์กรปกครองท้องถิ่น สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวร่วมดำเนินการในทุกพื้นที่ 2.การยกเว้นวีซ่าสำหรับนักท่องเที่ยวในตลาดที่มีการเติบโตสูง โดยมุ่งเน้นกลุ่มคุณภาพ และ 3.การให้วีซ่าประเภทเข้าออกหลายครั้ง (Multiple Entry Visa) แก่นักท่องเที่ยวกลุ่มเดินทางซ้ำ (Repeat Visitor) ทั้งนี้ เพื่อให้นักท่องเที่ยวเกิดความมั่นใจในการเดินทางท่องเที่ยวในประเทศไทยเพิ่มขึ้นในภาพรวม 

    ด้านนายศิษฎิวัชร ชีวรัตนพร นายกสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว (แอตต้า) กล่าวเสริมถึงสถานการณ์ตลาดนักท่องเที่ยวจีนว่า กลับมาดีขึ้นตั้งแต่ไตรมาสสุดท้ายของปี 2557 โดยเฉพาะเดือนตุลาคมที่มียอดนักท่องเที่ยวจีน 5 แสนคนต่อเดือนเป็นครั้งแรก ส่งผลให้เดือนพฤศจิกายนยอดจีนเที่ยวไทยมีมากกว่า 5 แสนคนเช่นกัน คาดการณ์ว่าไตรมาสแรกของปี 2558 จะมีนักท่องเที่ยวจีนเฉลี่ยต่อเดือนมากกว่า 5 แสนคน และมียอดจีนเที่ยวไทยตลอดปีนี้ที่ 5 ล้านคน

    ขณะที่ตลาดรัสเซีย ปัจจัยค่าเงินรูเบิลตกสุดขีด หลังถูกสหรัฐอเมริกาและสหภาพยุโรปแทรกแซงการค้า ส่งผลให้นักท่องเที่ยวรัสเซียมาไทยลดลงมากกว่า 30% นับเป็นตลาดที่น่าเป็นห่วงสุด เพราะเป็นกลุ่มที่มียอดนักท่องเที่ยวสูง ทั้งไทยยังต้องแข่งขันกับเวียดนาม หลังถูกชิงส่วนแบ่งตลาดไปมาก เนื่องจากเวียดนามให้เงื่อนไขท่องเที่ยวแก่ตลาดรัสเซียดีมาก

    นางพรทิพย์ หิรัญเกตุ รองประธาน สทท.กล่าวว่า วิธีรับมือยอดนักท่องเที่ยวรัสเซียลดลงคือการโปรโมตจัดโรดโชว์ดึงนักท่องเที่ยวอาเซียนกับตลาดในประเทศ นอกจากนี้ ยังเห็นสัญญาณการเดินทางของตลาดสหรัฐ หลังเริ่มฟื้นตัวจากวิกฤตเศรษฐกิจแฮมเบอร์เกอร์ จากตัวเลขพาต้าที่ระบุว่านักท่องเที่ยวสหรัฐเดินทางออกนอกประเทศเพิ่มขึ้น 5%

    ขณะที่นายยุทธชัย สุนทรรัตนเวช สมาคมธุรกิจท่องเที่ยวภายในประเทศ (สทน.) กล่าวว่า คาดว่า สถานการณ์ตลาดในประเทศจะเป็นบวกครั้งแรกในรอบ 2 ปีที่ผ่านมา และจะเป็นอีกตลาดที่ช่วยชดเชยรายได้จากตลาดนักท่องเที่ยวขาเข้า (อินบาวนด์) ที่หดตัว โดยรัฐบาลคาดว่าจะมียอดคนไทยเที่ยวในประเทศ 138 ล้านคน-ครั้ง และมีรายได้ 8 แสนล้านบาท จากปัจจัยบวกภาวะราคาน้ำมันที่ยังอยู่ในขาลงจนถึงกลางปีนี้ ทำให้คนไทยมีเงินเหลือในกระเป๋า 2-3 พันบาท สามารถนำมาใช้จ่ายด้านท่องเที่ยวได้ และทางรัฐบาลยังมีนโยบายส่งเสริมให้หน่วยงานภาครัฐ จัดประชุมสัมมนาในประเทศ และโครงการลดหย่อนภาษีจากการใช้จ่ายท่องเที่ยว ซึ่งจะเห็นผลอย่างชัดเจนในปี 2558 นี้

ที่มา ประชาชาติธุรกิจออนไลน์

NEWS & TRENDS