นางเพ็ญทิพย์ พรจะเด็ด นายกสมาคมส่งเสริมผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมไทย (ATSME) กล่าวว่า ร่างกฎหมายหลักประกันทางธุรกิจนี้ หากสามารถผลักดันให้ผ่านออกมาใช้บังคับได้ จะส่งผลดีต่อผู้ประกอบการ SMEs เป็นอย่างมาก เนื่องจากจะเปิดโอกาสให้ผู้ที่ไม่มีหลักประกันประเภทสังหาริมทรัพ..
นางเพ็ญทิพย์ พรจะเด็ด นายกสมาคมส่งเสริมผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมไทย (ATSME) กล่าวว่า ร่างกฎหมายหลักประกันทางธุรกิจนี้ หากสามารถผลักดันให้ผ่านออกมาใช้บังคับได้ จะส่งผลดีต่อผู้ประกอบการ SMEs เป็นอย่างมาก เนื่องจากจะเปิดโอกาสให้ผู้ที่ไม่มีหลักประกันประเภทสังหาริมทรัพย์ และอสังหาริมทรัพย์ สามารถนำทรัพย์สินทางปัญญา สินค้าคงคลัง มาเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันการกู้เงินจากสถาบันการเงินได้
"ถ้ากฎหมายนี้ออกมา จะช่วยให้ SMEs เข้าถึงแหล่งเงินทุนได้มากขึ้น และมีการคิดนวัตกรรม ภูมิปัญญาใหม่ ๆ รวมถึงลดการพึ่งพาหนี้นอกระบบ โดยเรื่องนี้มีการยกร่างกันมา 17 ปีแล้ว แต่ยังไม่ผ่าน พอจะมีการเสนอเข้าสภาก็ตกทุกที เพราะแบงก์มักจะมองว่า พวกทรัพย์สินทางปัญญาพวกนี้จะดูลอย ๆ ไม่น่ามาเป็นหลักประกัน แต่จริง ๆ แล้วมันมีมูลค่า" นางเพ็ญทิพย์กล่าว
นางเพ็ญทิพย์กล่าวว่า เมื่อประมาณ 2 เดือนก่อนหน้านี้ได้เคยนำร่างกฎหมายดังกล่าวไปเสนอ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พร้อมกับส่งถึง สนช. อีก 23 ฉบับ โดยนายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย รอง สนช. ได้รับปากว่าจะหารือกับกระทรวงการคลัง เพื่อให้เร่งเสนอร่างกฎหมายดังกล่าว ซึ่งล่าสุด ได้รับแจ้งว่าจะมีการเสนอร่างกฎหมายให้ ครม.พิจารณา ประมาณปลายเดือน ม.ค.นี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการหารือระหว่างคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กับภาคเอกชนเมื่อต้นสัปดาห์นี้ สมาคมธนาคารไทยก็ได้มีข้อเสนอเกี่ยวกับกฎหมายหลักประกันทางธุรกิจให้คล่องตัวขึ้น เพื่อช่วยให้ผู้ประกอบการ SMEs เข้าถึงแหล่งเงินทุนได้มากขึ้น
ที่มา ประชาชาติ
