กรุงเทพโพลล์เผยผลสำรวจชาวบ้าน 74% มองสินค้าไม่ลดราคาตามน้ำมัน เหตุพ่อค้าไม่ยอม-รัฐไม่มีมาตรการคุมเข้ม
กรุงเทพโพลล์เผยผลสำรวจชาวบ้าน 74% มองสินค้าไม่ลดราคาตามน้ำมัน เหตุพ่อค้าไม่ยอม-รัฐไม่มีมาตรการคุมเข้ม
รายงานข่าวจากศูนย์วิจัยมหาวิทยาลัยกรุงเทพ (กรุงเทพโพลล์) เปิดเผยผลสำรวจความเห็นประชาชน เรื่อง “ราคาสินค้าควรเป็นอย่างไรหลังราคาน้ำมันลด” ว่า ประชาชน 74% มองว่าราคาน้ำมันที่ลดลงค่อนข้างมากไม่ให้ราคาสินค้าปรับตัวลดลงตาม อีก 15% ระบุว่าราคาสินค้ากลับแพงขึ้นกว่าเดิม และ 10.3% สาเหตุหลักที่ราคาสินค้าไม่ลดลงในปัจจุบัน ทั้งที่ราคาน้ำมันลดลงค่อนข้างมากมาจากปัจจัยพ่อค้า แม่ค้า ไม่ยอมลดราคามากที่สุด รองลงมา รัฐไม่มีมาตรการควบคุมอย่างจริงจัง, การผลิตสินค้ายังมีต้นทุนสูง และ ผลจากการขึ้นเงินเดือนข้าราชการ ค่าแรง 300 บาทต่อวันทั่วประเทศ
สำหรับประเภทสินค้าที่ชาวบ้านอยากให้รัฐบาลดูแลเรื่องราคามากที่สุด ในภาวะเศรษฐกิจปัจจุบันคือ อาหารของสด เช่น ผัก หมู เห็ด เป็ด ไก่ รองลงมาเป็น ของใช้ เช่น สบู่ ยาสีฟัน ผงซักฟอก และ อาหารตามสั่ง ข้าวราดแกง ก๋วยเตี๋ยว เป็นต้น เมื่อถามถึงรายได้ ค่าครองชีพ และราคาสินค้าในปัจจุบัน มีผลต่อการตัดสินใจใช้จ่ายอย่างไร ส่วนใหญ่ ระบุว่าใช้จ่ายอย่างระวัง ซื้อแต่ของจำเป็น รองลงมา ใช้จ่ายเหมือนเดิม กินเหมือนเดิม แบะไม่ค่อยใช้จ่าย เน้นเก็บออม
นอกจากนี้เมื่อถามว่าการที่รัฐบาลจะประกาศราคาแนะนำสินค้าอาหารจำพวก อาหารสด เนื้อหมู ไก่ ไข่ แก๊สหุงต้ม ภายในสิ้นเดือน ม.ค. นี้ พ่อค้าแม่ค้าจะขายสินค้าในลักษณะใดนั้น ส่วนใหญ่ 45.5% เชื่อว่าจะขายตามราคาแนะนำ ขณะที่ 38.3% เชื่อว่าจะขายแพงกว่าราคาแนะนำ ที่เหลือ 6.1% เชื่อว่าจะขายถูกกว่าราคาแนะนำ อย่างไรก็ตาม เมื่อถามถึงความพึงพอใจในการดูแลราคาสินค้า ค่าครองชีพ ของรัฐบาล พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ 59.9% พอใจค่อนข้างมากถึงมากที่สุด ขณะที่ 33.9% พอใจค่อนข้างน้อยถึงน้อยที่สุด
“เป็นการเก็บข้อมูลกับประชาชนจากทุกภูมิภาคทั่วประเทศจำนวน 1,143 คน พบว่า ประชาชนจำนวน 38.7% มีรายได้ไม่ค่อยเพียงพอกับรายจ่าย และ 19.7% มีรายได้ไม่เพียงพอกับรายจ่าย ขณะที่ 41.6% มีรายได้เพียงพอกับรายจ่าย”
ที่มา www.dailynews.co.th