จี้รัฐออกกฎหมายนำใบออเดอร์เป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันกู้เงิน เพื่อเพิ่มศักยภาพธุรกิจรองรับการแข่งขันรายใหญ่-ทุนข้ามชาติเข้ามาตีตลาดท้องถิ่น พร้อมทั้งแนะตั้งทบวงเอสเอ็มอี
จี้รัฐออกกฎหมายนำใบออเดอร์เป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันกู้เงิน เพื่อเพิ่มศักยภาพธุรกิจรองรับการแข่งขันรายใหญ่-ทุนข้ามชาติเข้ามาตีตลาดท้องถิ่น พร้อมทั้งแนะตั้งทบวงเอสเอ็มอี
นายธนวรรธน์ พลวิชัยผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยถึงสถานการณ์แนวโน้มเอสเอ็มอีไทยในไตรมาสที่ 1 ปี58ว่า ปัญหาที่ผู้ประกอบการต้องการให้รัฐบาลแก้ปัญหาเร่งด่วนที่สุดคือ เรื่องของสภาพคล่องและการเข้าถึงแหล่งเงินทุนรองลงมาเป็นการแก้ปัญหาเศรษฐกิจ และความเชื่อมั่นการบริโภคหรือกำลังซื้อของประชาชนเนื่องจากในปัจจุบันธุรกิจเอสเอ็มอีประสบปัญหาสภาพคล่องอย่างหนักจนไม่สามารถเพิ่มศักยภาพขององค์กรเพื่อรองรับการขยายตัวของธุรกิจ หรือรับมือกับการเข้ามารุกตลาดของบริษัทขนาดใหญ่และทุนข้ามชาติโดยเฉพาะในตลาดท้องถิ่นที่เอสเอ็มอีเป็นผู้ครองตลาดอยู่
ทั้งนี้แนวทางที่เอสเอ็มอีต้องการให้รัฐบาลบรรจุในแผนแม่บทเอสเอ็มอีตามนโยบายของรัฐบาลคือ การออกกฎหมายให้ใช้หลักประกันอื่นๆ นอกเหนือจากที่ดินและสิ่งปลูกสร้างกรณีที่ขอสินเชื่อจากสถาบันการเงินเช่น การนำใบคำสั่งซื้อ (ออเดอร์)มาค้ำประกันของสินเชื่อเหมือนกับรายใหญ่ที่มีการใช้กันมาก รวมถึงการเพิ่มงบประมาณสนับสนุนให้บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม(บสย.) เพื่อเพิ่มวงเงินในการค้ำประกันสินเชื่อแก่ธุรกิจเอสเอ็มอี
นอกจากนี้ ต้องการให้รัฐบาลจัดตั้งทบวงเอสเอ็มอีพร้อมทั้งจัดตั้งสภาเอสเอ็มอีหรือสมาพันธ์เอสเอ็มอีในส่วนของภาคเอกชน เพื่อพัฒนาศักยภาพของธุรกิจได้ง่ายขึ้นขณะเดียวกันก็ผลักดันให้นำสินค้าเข้าไปจำหน่ายในห้างโมเดิร์นเทรดมากขึ้น, เร่งปรับโครงสร้างภาษีเงินได้นิติบุคคลให้กับเอสเอ็มอี,การจัดตั้งศูนย์เรียนรู้ออนไลน์แก่ธุรกิจเอสเอ็มอี,ดึงเอสเอ็มอีเข้ามาอยู่ในระบบมากขึ้นและนิรโทษกรรมให้แก่เอสเอ็มอีที่ไม่เคยเสียภาษี,การลดค่าธรรมเนียมในการทำธุรกิจกับธนาคารพาณิชย์เป็นต้น
ที่มา เดลินิวส์
