ม.หอการค้าไทยเปิดผลสำรวจดัชนีเชื่อมั่นผู้บริโภคมกราคมลดลง ส่งสัญญาณว่าเศรษฐกิจชะลอตัว ไม่น่าไว้วางใจ ชี้เป็นเรื่องแปลกเพราะเป็นช่วงเทศกาล และน้ำมันยังลดลงอีกด้วย
ม.หอการค้าไทยเปิดผลสำรวจดัชนีเชื่อมั่นผู้บริโภคมกราคมลดลง ส่งสัญญาณว่าเศรษฐกิจชะลอตัว ไม่น่าไว้วางใจ ชี้เป็นเรื่องแปลกเพราะเป็นช่วงเทศกาล และน้ำมันยังลดลงอีกด้วย
นายธนวรรธน์ พลวิชัย รองคณบดีฝ่ายวิจัยและผู้อำนวยการศูนย์พยายการณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคประจำเดือนมกราคม 2558 จากกลุ่มตัวอย่าง 2,239 คน พบว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคอยู่ที่ 80.4 ปรับตัวลดลงจากเดือนธันวาคม 2557 ที่อยู่ 81.1 และยังเป็นการปรับลดลงในทุกรายการอีกครั้งหลังเริ่มขยับขึ้นเมื่อช่วงเดือนธันวาคมที่ผ่านมา สะท้อนให้เห็นสัญญาณว่าเศรษฐกิจยังชะลอตัวและไม่น่าไว้วางใจ
ทั้งนี้ ปัจจัยบวกที่มีผลต่อดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคในเดือนนี้เช่น การที่คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) มีมติคงดอกเบี้ยไว้ที่ 2% และราคาน้ำมันที่ปรับตัวลดลง แต่ประชาชนยังกังวลต่อความไม่แน่นอนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทย หลังธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) คงเป้าขยายตัวทางเศรษฐกิจ (จีดีพี) 2558 ที่ 4% และสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.)ปรับลดประมาณการณ์เศรษฐกิจไทยเหลือ 3.9% จากเดิม 4.1% รวมถึงการส่งออกไทยยังขยายตัวได้ต่ำจากความไม่แน่นอนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก ค่าบาทแข็งกว่าสกุลเงินอื่น และราคาสินค้าเกษตรโดยเฉพาะยางพาราและข้าวราคาต่ำ อีกทั้งความกังวลของรายได้ภาคเกษตรจากปัญหาภัยแล้ง ทำให้กำลังซื้อทั่วไปในต่างจังหวัดขยายตัวไม่ได้มากนัก
"ถือว่าเป็นสัญญาณที่แปลกมาก เพราะจากช่วงเทศกาลปีใหม่ที่มีการจับจ่ายใช้สอย บวกกับราคาน้ำมันที่ปรับตัวลดลงน่จะมีแรงเหวี่ยงให้เศรษฐกิจดีขึ้น แต่ผลสำรวจที่ตอบกลับมากับดูไม่ฟื้น ฟื้นตัวช้า ส่วนหนึ่งมาจากกำลังซื้อต่างจังหวัดไม่ดีจากการที่ราคาสินค้าพืชผลทางการเกษตรไม่ดี จึงทำให้บรรยากาศการทำมาหากินยากขึ้น เพราะขายของไม่ได้ และเชื่อว่ารัฐบาลเองก็คงเห็นภาพนี้แล้วเช่นกัน ดังนั้นจึงต้องให้รัฐบาลเร่งอัดฉีดเม็ดเงินเข้าระบบผ่านการจ้างงานต่างๆ"นายธนวรรธน์ กล่าว
สำหรับดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับเศรษฐกิจโดยรวมเดือนม.ค.อยู่ที่ 69.7 ลดลงจาก 70.5 เช่นเดียวกับดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับโอกาสในการหางานที่ลดลงมาอยู่ที่ 74.1 จาก 74.6 และดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับรายได้ในอนาคตอยู่ที่ 97.4 ลดจาก 98.3 สอดคล้องกับการสำรวจภาวการณ์ใช้จ่ายของผู้บริโภคเดือนม.ค. ประชาชนจึงเห็นว่ายังไม่เหมาะสมที่จะซื้อรถยนต์คันใหม่ ซื้อบ้านหลังใหม่ ใช้จ่ายเพื่อการท่องเที่ยวและการลงทุนทำธุรกิจ ซึ่งความเชื่อมั่นผู้บริโภคจะเป็นขาลงต้องดูอีกครั้งกับการใช้จ่ายในช่วงตรุษจีนในเดือนก.พ.นี้