นายอิสระ ว่องกุศลกิจ ประธานกรรมการหอการค้าไทย และ ประธานสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย พร้อมคณะกรรมการสภาหอการค้าไทย เดินทางเข้าพบนายประสาร ไตรรัตน์วรกุล ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เพื่อหารือปัญหาค่าเงินบาทที่แข็งค่ากว่าอีกหลายสกุลในภูมิภาคในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งส่งผลกระทบกับกา..
นายอิสระ ว่องกุศลกิจ ประธานกรรมการหอการค้าไทย และ ประธานสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย พร้อมคณะกรรมการสภาหอการค้าไทย เดินทางเข้าพบนายประสาร ไตรรัตน์วรกุล ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เพื่อหารือปัญหาค่าเงินบาทที่แข็งค่ากว่าอีกหลายสกุลในภูมิภาคในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งส่งผลกระทบกับการส่งออกของเอกชน
นายอิสระ กล่าวว่าการที่หลายประเทศมีนโยบายผ่อนคลายการเงินส่งผลให้สกุลเงินอ่อนค่า เช่น ยุโรป ซึ่งเงินยูโรอ่อนค่าลงกว่า 10% เช่นเดียวกับญี่ปุ่นที่อ่อนค่าระดับใกล้เคียงกัน ขณะที่ปัญหาราคาน้ำที่ปรับลดลงส่งผลให้ค่าเงินริงกิตมาเลเซียอ่อนค่าลง 8% และส่งผลให้ราคาสินค้าเกษตรถูกลง ทำให้มูลค่าการส่งออกสินค้าเกษตรลดลง ผู้ประกอบการส่งออกสินค้าจะต้องปรับลดราคาลง สภาหอการค้าแห่งประเทศไทยจึงนำข้อมูลมาให้ ธปท.วิเคราะห์และดูแลระยะยาว
อย่างไรก็ตาม ช่วงที่ผ่านมายอมรับว่า ธปท.ดูแลอัตราแลกเปลี่ยนและเสถียรภาพทางการเงินได้อย่างเหมาะสม แต่อยากเสนอแนะให้ ธปท. และรัฐบาลเข้าไปดูในส่วนของการค้าขายแนวชายแดน อาเซียนหรือเพื่อนบ้าน เพื่อเพิ่มการส่งออก โดยสนับสนุนให้ใช้เงินสกุลคู่ค้า (Local Currency) ให้มีความสะดวกต่อการค้ามากขึ้น
นอกจากนี้ ยังต้องการให้ ธปท.สนับสนุนให้ธนาคารพาณิชย์จัดตั้งสาขาในต่างประเทศ เช่น ปากีสถานและรัสเซียที่เป็นตลาดใหม่ของไทย แต่ยังไม่มีสถาบันการเงินรายใดเข้าไปดำเนินกิจการ เพื่อสนับสนุนการทำธุรกิจของผู้ประกอบการ
นายภูมินทร์ หะรินสุต รองประธานกรรมการสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวว่าการค้าชายแดนที่มีแนวโน้มขยายตัวเพิ่มขึ้นจึงต้องการให้ธปท.ออกระเบียบให้ภาคธุรกิจทำการค้าที่ซื้อขายกันด้วยสกุลเงินของประเทศแถบชายแดนได้โดยตรง โดยเฉพาะมาเลเซีย จากปัจจุบันทำได้เพียงสิงคโปร์เท่านั้น เพื่อลดส่วนสูญเสียรายได้จากความเสี่ยงที่ต้องแลกเปลี่ยนเงินจากสกุลดอลลาร์สหรัฐก่อน แนวทางที่เสนอนี้เพื่อต้องการทำการค้าที่โปร่งใส ไม่ต้องการทำการค้านอกระบบที่ตกลงซื้อขายกันด้วยสกุลเงินของ 2 ประเทศกันเอง และต้องการใช้กลไกการชำระเงินที่ทำผ่านระบบธนาคาร
นายวิชัย อัศรัสกร รองประธานกรรมการหอการค้าไทยและโฆษกหอการค้าไทย กล่าวว่า การหารือครั้งนี้เป็นการแจ้งให้ ธปท.รับทราบถึงปัญหาที่เกิดขึ้นและนำข้อมูลไปวางโครงสร้างอัตราแลกเปลี่ยนระยะยาว โดยขอย้ำว่า ธปท.ดูแลอัตราแลกเปลี่ยนระยะสั้นได้ดีอยู่แล้ว ไม่พบการเก็งกำไรหรือเกิดปัญหาวิกฤติแต่อย่างใด
ขณะที่นางผ่องเพ็ญ เรืองวีรยุทธ รองผู้ว่าการ ด้านเสถียรภาพการเงิน ธปท. กล่าวว่า ธปท.ยังไม่จำเป็นต้องออกมาตรการพิเศษดูแลค่าเงินบาท เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของค่าเงินบาทที่เกิดขึ้นไม่ได้มาจากความผิดปกติของกระแสเงินทุนไหลเข้าออก แต่มาจากการเปลี่ยนแปลงของเงินสกุลอื่น ซึ่งเป็นประเทศขนาดใหญ่และเป็นคู่ค้าของไทย เช่น สหรัฐ ยุโรป ญี่ปุ่น ซึ่งทุกประเทศเผชิญกับสถานการณ์เดียวกัน
ธปท.ขอย้ำว่าจะเข้าดูแลเมื่ออัตราแลกเปลี่ยนมีความผิดปกติ หรือเปลี่ยนแปลงรวดเร็วเกินไป อย่างไรก็ตาม ธปท.พร้อมนำข้อมูลของภาคเอกชนมาพิจารณา เพื่อดูแลไม่ให้อัตราแลกเปลี่ยนเป็นอุปสรรคต่อการค้าการลงทุน แต่ยอมรับว่ากรณีที่สภาหอการค้าแห่งประเทศไทยต้องการให้ธนาคารพาณิชย์เปิดสาขาในประเทศปากีสถานหรือรัสเซียคงดำเนินการได้ยาก เนื่องจากเป็นประเทศที่ถูกคว่ำบาตรทางการค้า ซึ่งต้องรอให้การคว่ำบาตรยกเลิกก่อน แต่ขณะนี้ภาคเอกชนสามารถเตรียมตัวเองให้พร้อม หากมาตรการคว่ำบาตรยกเลิกจะเข้าไปทำการค้าได้ทันที
ที่มา แนวหน้า