​จับตาธุรกิจ SMEs ปีแพะ "ใครรุ่ง ใครระวัง"

ในปีที่ผ่านมา นับว่าเป็นปีที่ภาคธุรกิจเอสเอ็มอีต้องเจอกับความยากลำบากจากหลากหลายปัจจัยลบพอสมควร แต่ในปีนี้ ทิศทางเศรษฐกิจก็มีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ถือว่าเป็นข่าวดีต่อธุรกิจเอสเอ็มอีไทย



คอลัมน์ Smart SMEs โดย พัชร สมะลาภา ธนาคารกสิกรไทย
จากประชาชาติธุรกิจออนไลน์ http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1423645296

    ในปีที่ผ่านมา นับว่าเป็นปีที่ภาคธุรกิจเอสเอ็มอีต้องเจอกับความยากลำบากจากหลากหลายปัจจัยลบพอสมควร แต่ในปีนี้ ทิศทางเศรษฐกิจก็มีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ถือว่าเป็นข่าวดีต่อธุรกิจเอสเอ็มอีไทย 

    โดยเศรษฐกิจในปีนี้จะเติบโตอยู่ที่ 4% เนื่องจากการใช้จ่ายของภาครัฐที่เริ่มกลับมาเดินหน้าต่อได้ และการปรับลดของค่าน้ำมันในตลาดโลก รวมทั้งภาคการส่งออกก็กลับมาดีขึ้นตามเศรษฐกิจของประเทศคู่ค้า เช่น สหรัฐอเมริกา และกลุ่มอาเซียน โดยเฉพาะประเทศในกลุ่ม CLMV

    เมื่อทิศทางเศรษฐกิจเริ่มมีแนวโน้มดี เรามาดูว่าธุรกิจในปีนี้ ธุรกิจไหนจะมีโอกาสกลับมารุ่ง และธุรกิจไหนต้องเฝ้าระวังกันบ้างครับ 

    เริ่มต้นที่ธุรกิจดาวรุ่ง ได้แก่ ธุรกิจก่อสร้าง และวัสดุก่อสร้าง ในปีนี้จะได้รับผลดีจากแผนการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานคมนาคมขนส่งของภาครัฐทั้งในกรุงเทพฯและปริมณฑล รวมถึงพื้นที่ชายแดนซึ่งเป็นทำเลที่มีศักยภาพ ทำให้ธุรกิจก่อสร้างมีโอกาสเติบโต ธุรกิจค้าปลีกค้าส่งเป็นธุรกิจที่ได้ผลดีต่อเนื่องจากการขยายเส้นทางคมนาคม โดยเฉพาะจังหวัดที่มีพื้นที่ติดชายแดน สปป.ลาว เมียนมาร์ และกัมพูชา ได้แก่ จังหวัดตาก มุกดาหาร สระแก้ว ตราด และสงขลา

    นอกจากนี้ การเปิด AEC จะช่วยให้การซื้อของผู้บริโภคในพื้นที่จังหวัดเชียงราย กาญจนบุรี หนองคาย นครพนม และนราธิวาสเพิ่มสูงขึ้น ส่วนธุรกิจท่องเที่ยวและสุขภาพก็เป็นธุรกิจที่ต้องจับตาในปีนี้เช่นกัน เพราะประเทศไทยได้รับการยอมรับถึงความสวยงามของแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติและมีความหลากหลาย ที่สำคัญยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ให้ความคุ้มค่าเรื่องราคาถ้าเปรียบเทียบกับประเทศใกล้เคียง ทำให้ตอบโจทย์กลุ่มนักท่องเที่ยวรายได้ระดับกลางที่มีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง 

    อีกทั้งประเทศไทยยังได้รับการยกย่องว่าเป็น Medical Hub ของภูมิภาคอาเซียน เนื่องจากมีบุคลากรที่มีความรู้และเชี่ยวชาญการให้บริการด้านสุขภาพ ด้วยราคาที่สามารถแข่งขันกับคู่แข่งในประเทศอาเซียนได้ ยิ่งปัจจุบันกระแสคนรักสุขภาพเป็นเทรนด์ที่ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง จึงเป็นแรงสนับสนุนให้ธุรกิจท่องเที่ยวและสุขภาพมีทิศทางการเติบโตที่ดีในปีนี้ 

    ส่วนธุรกิจส่งออก เช่น กลุ่มสินค้าแฟชั่น อาหารแปรรูป เพราะตลาด CLMV มีความชอบในคุณภาพสินค้าของไทย ตลาดสหรัฐ จีน ญี่ปุ่น ยังมีความต้องการสินค้าจากไทยจึงเป็นโอกาสที่ทำให้สินค้ากลุ่มส่งออกเติบโต 

    สุดท้าย ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการสื่อสาร เนื่องจากตอนนี้รัฐบาลต้องการขับเคลื่อนเทคโนโลยีดิจิทัล เพื่อพัฒนาเศรษฐกิจในประเทศให้รองรับ AEC ทำให้ระบบดิจิทัลเข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวันของคนเรามากขึ้น เพราะเทคโนโลยีดิจิทัลทำให้คนทั้งโลกสามารถติดต่อสื่อสารถึงกันได้แบบไร้พรมแดน และสามารถเข้าถึงข้อมูลข่าวสารผ่านระบบอินเทอร์เน็ตได้รวดเร็ว 

    ดังนั้นจึงส่งผลดีต่อภาคธุรกิจ SMEs ถึงแม้ว่าธุรกิจ SMEs จะไม่ได้เป็นผู้ลงทุนระบบโครงข่ายเอง แต่ก็จะได้รับอานิสงส์จากบริษัทขนาดใหญ่ที่ขยายเครือข่ายเป็นวงกว้าง ทำให้ช่วยเพิ่มช่องทางการเข้าถึงลูกค้าได้อย่างรวดเร็วขึ้น ผ่านหน้าร้านบนระบบออนไลน์ของผู้ประกอบการ SMEs 

    มาดูกลุ่มธุรกิจที่ต้องเจอกับความท้าทาย และจำเป็นต้องปรับตัวในปีนี้ เริ่มด้วยธุรกิจการเกษตร เนื่องจากราคาสินค้าเกษตรหลายรายการยังมีแนวโน้มตกต่ำอย่างต่อเนื่อง เช่น ยางพารา ปาล์มน้ำมัน มันสำปะหลัง อ้อย และข้าว ซึ่งเป็นสินค้าส่งออกหลักของประเทศ สินค้าเหล่านี้ต้องเผชิญกับภาวะผลผลิตที่มีอยู่มากเกินความต้องการ เช่น สต๊อกยางพาราของจีนยังมีอยู่มาก จึงทำให้ชะลอการสั่งซื้อสินค้าจากไทย 

    ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ แม้ว่าการพัฒนาโครงการลงทุนของภาครัฐและเอกชน ทำให้มีทำเลศักยภาพใหม่ ๆ เพิ่มขึ้น แต่ราคาที่ดินก็จะสูงขึ้นตามไปด้วย ดังนั้นผู้ประกอบการที่มีสายป่านสั้น มีเงินทุนไม่หนาพอ ก็จะได้รับผลกระทบ 

    สิ่งที่ผมนำมาเขียนในบทความทั้งหมดนี้เป็นแนวโน้มที่คาดว่า ธุรกิจไหนจะรุ่ง ธุรกิจไหนต้องเฝ้าระวัง ซึ่งก็ไม่สามารถคาดการณ์ได้ว่าจะมีปัจจัยอื่น ๆ ที่จะเกิดขึ้นและส่งผลกระทบต่อภาคธุรกิจอีกหรือไม่ จึงไม่ควรประมาท แต่ต้องเตรียมพร้อมรับมือกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นอยู่เสมอ ดังนั้นผู้ประกอบการจึงต้องให้ความสำคัญในการพัฒนาคุณภาพสินค้า บริการ และบุคลากร พร้อมทั้งต้องศึกษาพฤติกรรมลูกค้าอยู่เสมอ 

    รวมถึงนำเทคโนโลยีเข้ามาประยุกต์ใช้เพื่อลดต้นทุนในการทำธุรกิจให้มากขึ้น ผมเชื่อว่าธุรกิจ SMEs มีจุดเด่นที่มีความยืดหยุ่น และความคล่องตัวสูง หากรู้จักที่จะปรับตัว เปลี่ยนแปลงแนวคิด และปรับกระบวนการ เพื่อเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ อยู่เสมอ คุณจะได้รับสิ่งใหม่ ๆ และอาจนำความสำเร็จมาให้ธุรกิจคุณได้ครับ


NEWS & TRENDS