ออร์เดอร์พุ่ง-คาดยอดผลิตปีนี้แตะ2.3ล้านคัน ส.อ.ท.ยันธุรกิจยานยนต์คืนชีพ

ส.อ.ท. คาดเศรษฐกิจไทยปี 2555 จะกลับมาเติบโตหลังไตรมาส 1 (ม.ค.-มี.ค.) ซึ่งอุตสาหกรรมที่จะโดดเด่นคือ อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ และอุตสาหกรรมยานยนต์ เพราะคำสั่งซื้อจะกลับมา หลังประสบกับปัญหาน้ำท่วม โดยคาดว่าจะผลิตได้ถึง 2.3 ล้านคัน จากปี 2554 ผลิตประมาณ 1.5 ล้านคัน ทั้งนี้สัญญาณที่เห็นชัดเกิดจากความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการอุตสาหกรรมเดือนธ.ค. เพราะอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ตอบว่าความเชื่อมั่นกลับมาแล้ว ทั้งที่เป็นกลุ่มที่ประสบภัยน้ำท่วม

ออร์เดอร์พุ่ง-คาดยอดผลิตปีนี้แตะ2.3ล้านคัน ส.อ.ท.ยันธุรกิจยานยนต์คืนชีพ



     นายพยุงศักดิ์ ชาติสุทธิผล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า คาดว่าเศรษฐกิจไทยปี 2555 จะกลับมาเติบโตหลังไตรมาส 1 (ม.ค.-มี.ค.) ซึ่งอุตสาหกรรมที่จะโดดเด่นคือ อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ และอุตสาหกรรมยานยนต์ เพราะคำสั่งซื้อจะกลับมา หลังประสบกับปัญหาน้ำท่วม โดยคาดว่าจะผลิตได้ถึง 2.3 ล้านคัน จากปี 2554 ผลิตประมาณ 1.5 ล้านคัน ทั้งนี้สัญญาณที่เห็นชัดเกิดจากความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการอุตสาหกรรมเดือนธ.ค. เพราะอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ตอบว่าความเชื่อมั่นกลับมาแล้ว ทั้งที่เป็นกลุ่มที่ประสบภัยน้ำท่วม

     นายวัลลภ เตียศิริ ผู้อำนวยการสถาบันยานยนต์ กล่าวว่า ผู้ผลิตรถยนต์และชิ้นส่วนเริ่มกลับมาเดินเครื่องบางส่วน เช่น โตโยต้ากลับมาผลิตได้ 2 กะต่อวันแล้ว จากปกติการผลิต 100% จะอยู่ที่ 3 กะ ทั้งนี้ คาดว่าการผลิตรถยนต์ของไทยจะเติบโตต่อเนื่องแตะ 2 ล้านคันแน่นอน โดยเฉพาะตลาดในประเทศมีความต้องการสูงจากผลกระทบน้ำท่วมทำให้รถยนต์เสียหาย และผลจากนโยบายรถยนต์คันแรกของรัฐบาลซึ่งการคืนภาษี 1 แสนบาท เท่ากับรถยนต์ได้ส่วนลดถึง 15% จึงคาดว่าจะเติบโตถึง 25% คือ 9.5 แสนล้านคัน

     สำหรับตลาดต่างประเทศวางเป้าหมายไว้ที่ 1 ล้านคัน หลังจากปี 2554 ส่งออกไปเพียง 7 แสนคัน เพราะต้องส่งขายในประเทศก่อน โดยตลาดต่างประเทศมีแนวโน้มเติบโตเพราะผู้ผลิตรถยนต์ไทยมีผลิตภัณฑ์ หรือรถรุ่นใหม่ที่ยังไม่ได้ขายเพราะเจอปัญหาน้ำท่วม อาทิ รถกระบะของอีซูซุ ฟอร์ด และเชฟโรเลต และมี 2 บริษัทเตรียมจำหน่ายรถยนต์ประหยัด พลังงานเพื่อสิ่งแวดล้อม (อีโคคาร์) ในปีนี้คือ มิตซูบิชิ และซูซูกิ

     อย่างไรก็ตาม ต้องติดตามแนวโน้มเศรษฐกิจโลกอย่างใกล้ชิด เพราะมีโอกาสชะลอตัวจากเศรษฐกิจในสหภาพยุโรปซึ่งไทยส่งออกไปประมาณ 8-9% แม้ไม่มากแต่เศรษฐกิจของยุโรปอาจทำให้เศรษฐกิจของออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ชะลอตัวตามไปด้วย ซึ่ง 2 ประเทศนี้นำเข้ารถยนต์จากไทยมากถึง 25% รองจากทวีปเอเชียที่นำเข้าจากไทย 50%

     "หากสถานการณ์เลวร้ายจริง เศรษฐกิจในยุโรปลุกลามมากขึ้น เชื่อว่าจะไม่กระทบไทยมากนัก เพราะรถยนต์ที่ผลิตในไทยเป็นรถยนต์ที่เน้นตอบสนองการใช้งานและราคาไม่สูงมาก ถือเป็นรถที่จำเป็นต่อการใช้งาน"นายวัลลภกล่าว

     นอกจากนี้ ปี 2555 กำลังการผลิตรถยนต์รวมของไทยจะเพิ่มขึ้นประมาณ 5 แสนคัน จากปัจจุบันประมาณ 2.4 ล้านคัน มาจากการเพิ่มกำลังผลิตของฟอร์ด มิตซูบิชิ และซูซูกิ ขณะเดียวกันโตโยต้าและอีซูซุมีแผนเพิ่มกำลังการผลิตไม่ต่ำกว่า 1 แสนคันต่อบริษัท แต่คาดว่าจะผลิตจริงปี 2556 เพราะต้องใช้เวลาเตรียมการผลิตประมาณ 9 เดือน อย่างไรก็ตามหากไม่คุ้มทุนอาจเลือกขยายกำลังการผลิตภายในโรงงานที่มีอยู่แทน

ที่มา : ข่าวสด

NEWS & TRENDS