ธนาคารในประเทศไทย จี้ รัฐเร่งเบิกจ่ายช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มความเชื่อมั่นประชาชนใช้จ่าย ยัน นโยบายการเงินเหมาะสม ไม่เป็นอุปสรรคต่อธุรกิจ คาด ส่งออกปีนี้โตร้อยละ 1 ต่ำกว่า สศช. ประเมินไว้ที่ 3%
ธนาคารในประเทศไทย จี้ รัฐเร่งเบิกจ่ายช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มความเชื่อมั่นประชาชนใช้จ่าย ยัน นโยบายการเงินเหมาะสม ไม่เป็นอุปสรรคต่อธุรกิจ คาด ส่งออกปีนี้โตร้อยละ 1 ต่ำกว่า สศช. ประเมินไว้ที่ 3%
นายจิรเทพ เสนีวงศ์ ณ อยุธยา โฆษกธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า การที่อัตราเงินเฟ้อติดลบในขณะนี้ เป็นผลจากการลดลงของราคาน้ำมันในตลาดโลก และไม่ใช่ผลจากอุปทานในประเทศที่ลดลง ดังนั้น การใช้นโยบายทางการเงิน จึงไม่ส่งผล ซึ่งคาดว่าทั้งปีนี้อัตราเงินเฟ้อจะยังขยายตัวเป็นบวกได้ แม้ว่าในระยะนี้จะต่ำมาก
นอกจากนี้การที่ธนาคารในประเทศไทย ได้หารือกับผู้ประกอบการยืนยันว่าปัจจุบัน ระดับอัตราดอกเบี้ยไม่ได้เป็นอุปสรรคทางธุรกิจ แต่ทั้งนี้ มองว่า สิ่งที่จะช่วยกระตุ้นได้คือ การเบิกจ่ายของภาครัฐ และงบลงทุนของทางราชการ ที่จะสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนในการใช้จ่ายมากกว่าปัจจุบัน ซึ่งนโยบายทางการคลัง น่าจะมีผลต่อการกระตุ้นเศรษฐกิจ ได้มากกว่าอย่างรวดเร็ว กว่าใช้นโยบายการเงิน
ทั้งนี้ ได้ประเมินการส่งออกปีนี้ อยู่ที่ร้อยละ 1 ซึ่งต่ำกว่าที่สํานักงานคณะกรรมการพัฒนาการ เศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ หรือ สศช. ประเมินว่า จะขยายตัวได้ร้อยละ 3 เนื่องจาก ธปท. เห็นว่าการส่งออกมีความเสี่ยงจากราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่ลดลงตามราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก โดยสินค้าโภคภัณฑ์มีสัดส่วนถึงร้อยละ 18 ของมูลค่าการส่งออกทั้งหมด ส่วนประเด็นเรื่องค่าเงินบาทและเงินทุนเคลื่อนย้ายนั้น มองว่าไม่ใช่ประเด็นที่น่ากังวล โดยตั้งแต่ต้นปี 2558 มีเงินไหลออกสุทธิ 310 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องปกติ เนื่องจากเศรษฐกิจสหรัฐฯ กลับมาฟื้นตัว ขณะที่ค่าเงินบาทยังเคลื่อนไหวอย่างมีเสถียรภาพ ไม่มีความผิดปกติแต่อย่างใด