นายประสงค์ พูนธเนศ อธิบดีกรมสรรพากร เปิดเผยว่า ภาพรวมการจัดเก็บรายได้ของกรมในปีนี้ โดยช่วง 4 เดือนแรกยังต่ำกว่าเป้าหมายที่วางไว้ 1.6 หมื่นล้านบาท โดยในเดือน ม.ค.ต่ำกว่าเป้าหมาย 6 พันล้านบาท มีสาเหตุหลักมาจากภาษีมูลค่าเพิ่มนำเข้าที่หายไปประมาณ 4 พันล้านบาทต่อเดือน โดยเฉพาะผลกระท..
นายประสงค์ พูนธเนศ อธิบดีกรมสรรพากร เปิดเผยว่า ภาพรวมการจัดเก็บรายได้ของกรมในปีนี้ โดยช่วง 4 เดือนแรกยังต่ำกว่าเป้าหมายที่วางไว้ 1.6 หมื่นล้านบาท โดยในเดือน ม.ค.ต่ำกว่าเป้าหมาย 6 พันล้านบาท มีสาเหตุหลักมาจากภาษีมูลค่าเพิ่มนำเข้าที่หายไปประมาณ 4 พันล้านบาทต่อเดือน โดยเฉพาะผลกระทบจากราคาน้ำมันในตลาดโลกที่ปรับลดลง
นอกจากนี้ ในส่วนของภาษีเงินได้นิติบุคคลก็ยังไม่ดี เพราะเป็นการเก็บจากผลประกอบการของปีก่อน โดยการจัดเก็บรายได้ในปีงบประมาณ 2558 ของกรม คาดว่าจะต่ำกว่าเป้าหมาย 1.6-1.7 แสนล้านบาท แต่ยังเชื่อว่าจะไม่ถึง 2 แสนล้านบาท เนื่องจากภาษีมูลค่าเพิ่มจากการบริโภคยังขยายตัวได้ดี
ส่วนการยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาในปี 2557 ผ่านระบบอินเทอร์เน็ต ในเดือน ม.ค.มีผู้ยื่นแบบฯ อยู่ที่ 9 แสนราย ในจำนวนดังกล่าวเป็นการยื่นแบบขอคืนภาษี จำนวน 1.9 แสนราย สูงกว่าช่วงเดียวกันเมื่อเทียบกับปีก่อนที่ยื่นขอคืน 1.7 แสนราย โดยกรมคาดว่า เมื่อสิ้นสุดการเปิดให้ยื่นแบบขอคืนภาษีในเดือน มี.ค. จะมีผู้ขอคืนภาษีมากกว่าปีที่ผ่านมา แต่มูลค่าการขอคืนภาษีจะยังใกล้เคียงกัน
“การขอคืนภาษีที่มีจำนวนรายเพิ่มขึ้น แต่วงเงินต่อรายไม่มากนั้นมาจากการปรับฐานภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาจากเดิมที่มี 7 ขั้น ลดลงเหลือ 5 ขั้น ทำให้ฐานภาษีเงินได้กว้างขึ้น” นายประสงค์กล่าว
ส่วนการขอคืนภาษีในปีนี้พบว่า ผู้เสียภาษีปัจจุบันไม่เหมือนที่ผ่านมา มีการตื่นตัวในการยื่นแบบและขอคืนภาษีมากขึ้น เช่น ยื่นขอคืนภาษีในวันนี้ และหลังจากนั้นอีกไม่เกิน 1-2 วัน ก็มีการทวงถามมาที่กรม หรือบางรายเดินทางมาติดต่อเจ้าหน้าที่โดยตรง ทำให้กรมต้องเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน และดำเนินงานถูกต้อง ดูแลไม่ให้มีการรั่วไหล
ด้าน นายรังสรรค์ ศรีวรศาสตร์ ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า จะต้องมีมาตราการเสริมเพื่อช่วยกระตุ้นการจัดเก็บภาษีให้ดีขึ้น โดยเฉพาะภาษีเงินได้นิติบุคคล โดยอาจต้องอาศัยความร่วมมือของกรมศุลกากรเข้มงวดการแสดงรายการสินค้านำเข้าให้เสียภาษีถูกต้อง
ที่มา ASTV ผู้จัดการออนไลน์