ไมโครซอฟท์ ร่วมกับ สวทช. เดินหน้าพัฒนานวัตกรรมเทคโนโลยีขานรับนโยบายเศรษฐกิจดิจิทัล เปิดศูนย์นวัตกรรมไมโครซอฟท์ หรือ Microsoft Innovation Center (MIC) มุ่งให้บริการนักเรียนนักศึกษา ผู้ประกอบการ และสตาร์ทอัพ ในหลากหลายรูปแบบ
ไมโครซอฟท์ ร่วมกับ สวทช. เดินหน้าพัฒนานวัตกรรมเทคโนโลยีขานรับนโยบายเศรษฐกิจดิจิทัล เปิดศูนย์นวัตกรรมไมโครซอฟท์ หรือ Microsoft Innovation Center (MIC) มุ่งให้บริการนักเรียนนักศึกษา ผู้ประกอบการ และสตาร์ทอัพ ในหลากหลายรูปแบบ
ศูนย์นวัตกรรมไมโครซอฟท์ ณ สวทช. แห่งนี้ นับเป็นหนึ่งใน 113 ศูนย์นวัตกรรมไมโครซอฟท์ที่ตั้งอยู่ทั่วโลก โดยมุ่งให้บริการทรัพยากรและความช่วยเหลือด้านไอทีระดับโลก สำหรับนักเรียนนักศึกษา ผู้ประกอบการ และสตาร์ทอัพ ในหลากหลายรูปแบบ
ไม่ว่าจะเป็นการอบรมทักษะการเขียนแอพพลิเคชั่นให้กับนักศึกษา การจับคู่ธุรกิจ และให้คำปรึกษาในการเป็นผู้ประกอบการ โดยมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อเร่งอัตราการเกิดของบริษัทและการสร้างงานแรงงานไอทีที่มีคุณภาพ อันนำมาซึ่งการขยายตัวของระบบนิเวศไอทีของประเทศไทยในอนาคต ที่คาดว่าจะมีเงินลงทุนในอุตสาหกรรมนี้เพิ่มมากขึ้นร้อยละ 10.5 จากปี 2557 หรือคิดเป็นมูลค่ารวม 3.4 พันล้านดอลลาร์ในปี 2558
ทั้งนี้ ศูนย์นวัตกรรมไมโครซอฟท์ ในประเทศไทย ได้เปิดตัวครั้งแรกในปี 2551 ด้วยความร่วมมือระหว่างไมโครซอฟท์ สวทช. สมาคมอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ไทย และศูนย์ศึกษาสาทรธานี มหาวิทยาลัยรังสิต โดยปัจจุบัน ศูนย์นวัตกรรมไมโครซอฟท์แห่งนี้ ได้ย้ายมาตั้งอยู่ที่ สำนักงานของ สวทช. ณ ซอยโยธี ถนนพระราม 6
ดร. พิเชฐ ดุรงคเวโรจน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กล่าวว่า รัฐบาลได้ริเริ่มโครงการพัฒนาทักษะไอทีให้แก่ผู้ประกอบการ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานและส่งเสริมการนำนวัตกรรมเทคโนโลยีใหม่ๆ มาใช้ โดยเฉพาะในหมู่ธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ซึ่งหวังเป็นอย่างยิ่งว่า เมื่อเอสเอ็มอีของไทย ได้รับแรงสนับสนุนทางเทคโนโลยีและเครื่องมืออย่างเต็มที่ จะสามารถแข่งขันกับบริษัทที่ใหญ่กว่าได้ในตลาดโลก
ด้านดร.ทวีศักดิ์ กออนันตกูล ผู้อำนวยการ สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) บทบาทที่สำคัญอย่างหนึ่งในการร่วมมือกันในครั้งนี้ คือ การฝึกอบรมเทคโนโลยีระดับโลกล่าสุด (Skills Development) ให้กับบุคลากรของ NSTDA Academy มีการนำงานวิจัยของ NECTEC มาต่อยอดพัฒนาออกมาเป็นแอพพลิเคชั่น เพื่อให้สามารถนำไปใช้งานในวงกว้าง (Application Development) โดยเฉพาะเมื่อเราได้เข้าสู่ยุคในยุคของโมบายและคลาวด์ และการร่วมมือกับ SOFTWARE PARK ในการการพัฒนาระบบนิเวศไอที (Ecosystem Development) บ่มเพาะและสนับสนุนผู้ประกอบรายใหม่ ด้านซอฟต์แวร์และเงินทุน ผ่านการสนับสนุนของโครงการอย่าง ไมโครซอฟท์ บิซสปาร์ค และ ไมโครซอฟท์ เวนเจอร์ เป็นต้น
ส่วนนายฮาเรซ คูบจันดานิ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ศูนย์นวัตกรรมไมโครซอฟท์ จะช่วยสร้างความแข็งแกร่งให้กับระบบนิเวศไอทีของประเทศไทย ผ่านการพัฒนาทักษะ ส่งเสริมนวัตกรรม และมอบโอกาสการเข้าถึงเครื่องมือและโอกาสทางธุรกิจให้กับผู้ประกอบการ จากความเชี่ยวชาญระดับโลกของเรา
ไมโครซอฟท์เชื่อว่าศูนย์นวัตกรรมไมโครซอฟท์ เป็นอีกหนึ่งโครงการที่จะเป็นประโยชน์ต่อการส่งเสริมระบบนิเวศไอทีที่จะกลายมาเป็นรากฐานของความเจริญรุ่งเรืองของประเทศไทยในศตวรรษที่ 21 ซึ่งไมโครซอฟท์มีความยินดีและพร้อมเป็นอย่างยิ่ง ที่จะร่วมมือกับ สวทช. เพื่อขับเคลื่อนประเทศไทยให้ได้รับประโยชน์สูงสุดจากก้าวเข้าสู่เศรษฐกิจดิจิทัล