รมพัฒนาธุรกิจการค้า รวมพลังภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคการศึกษาเร่งสร้างภูมิคุ้มกันให้ภาคธุรกิจไทย ผุดโครงการพัฒนาศักยภาพสมาคมการค้า หวังผลักดันเป็นตัวขับเคลื่อนธุรกิจไทยให้มีความเข้มแข็ง ยั่งยืน ในระยะยาว พร้อมต่อสู้ในตลาด AEC ที่มีผู้บริโภคกว่า 600 ล้านคน
กรมพัฒนาธุรกิจการค้า รวมพลังภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคการศึกษาเร่งสร้างภูมิคุ้มกันให้ภาคธุรกิจไทย ผุดโครงการพัฒนาศักยภาพสมาคมการค้า หวังผลักดันเป็นตัวขับเคลื่อนธุรกิจไทยให้มีความเข้มแข็ง ยั่งยืน ในระยะยาว พร้อมต่อสู้ในตลาด AEC ที่มีผู้บริโภคกว่า 600 ล้านคน
นางสาวผ่องพรรณ เจียรวิริยะพันธ์ อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการสัมมนา “AEC Highlight 2015” ภายใต้โครงการพัฒนาศักยภาพสมาคมการค้า เมื่อวันจันทร์ที่ 23 กุมภาพันธ์ 2558 ณ ศูนย์ฝึกอบรมพัฒนาธุรกิจการค้า ว่า สมาคมการค้าเป็นสถาบันตัวแทนภาคธุรกิจและเป็นศูนย์รวมผู้ประกอบธุรกิจ ครอบคลุมครบทุกภาคเศรษฐกิจ ทั้งภาคการผลิต การค้า และการบริการ
ดังนั้นสมาคมการค้าจึงเป็นกลไกขับเคลื่อนที่สำคัญในการพัฒนาธุรกิจไทยให้เข้มแข็ง แข่งขันได้อย่างยั่งยืน กรมฯ จึงร่วมกับภาครัฐภาคธุรกิจ และภาคการศึกษา จัดทำโครงการพัฒนาศักยภาพสมาคมการค้า เพื่อสร้างความเข้มแข็งแก่สมาคมการค้าไทยอย่างครบวงจร พร้อมยกระดับคุณภาพมาตรฐานการบริหารจัดการตามมาตรฐานสากล อันจะส่งเสริมและผลักดันพัฒนาธุรกิจรายสาขาที่สมาคมการค้าเป็นตัวแทนให้สามารถสร้างมูลค่าเพิ่มทางการตลาดและเป็นรากฐานที่เข้มแข็งของเศรษฐกิจในระดับประเทศ
“โครงการพัฒนาศักยภาพสมาคมการค้า เป็นการพัฒนาสมาคมการค้าให้มีความเข้มแข็ง สามารถแข่งขันได้ในระดับประเทศและพร้อมก้าวไปสู่การแข่งขันในระดับสากลอย่างตลาด AEC ได้อย่างสง่างาม ซึ่งกรมฯ ได้ดำเนินกิจกรรมบ่มเพาะให้ความรู้เกี่ยวกับการบริหารจัดการธุรกิจเพื่อให้ประสบความสำเร็จตามหลักวิชาการ โดยมีกิจกรรมหลักๆ คือ 1) การพัฒนาศักยภาพสมาคมการค้า 2) การขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ของสมาคมการค้า 3)การประกวดสมาคมการค้าดีเด่น
ซึ่งโครงการดังกล่าวมุ่งเสริมสร้างองค์ความรู้ในการบริหารจัดการสมาคมการค้า เพิ่มทักษะการบริหารแบบมืออาชีพ และสร้างโอกาสทางธุรกิจ โดยเรียนรู้จากการแลกเปลี่ยนความคิดเห็น และถ่ายทอดประสบการณ์จากผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ทางธุรกิจ รวมทั้งศึกษาดูงานสมาคมการค้าต้นแบบที่ประสบความสำเร็จในการดำเนินธุรกิจมาแล้ว ซึ่งหากสมาคมและสมาชิกมีความพร้อมในการบริหารจัดการตามมาตรฐานสากล จะได้เปรียบในการดำเนินธุรกิจและสร้างโอกาสที่จะเป็นผู้นำทางธุรกิจในระดับภูมิภาคอาเซียนได้ด้วย”