นายกรัฐมนตรีขอให้ผู้ประกอบการ SMEs มาขึ้นทะเบียนเพื่อจะได้เข้าสู่ระบบและรับสิทธิประโยชน์การส่งเสริมต่าง ๆ
นายกรัฐมนตรีขอให้ผู้ประกอบการ SMEs มาขึ้นทะเบียนเพื่อจะได้เข้าสู่ระบบและรับสิทธิประโยชน์การส่งเสริมต่าง ๆ
พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (เฉพาะกิจ) ครั้งที่ 1/2558 ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งผลการประชุมสรุปสาระสำคัญ ดังนี้
นายกรัฐมนตรี ประธานแจ้งที่ประชุมรับทราบว่า การประชุมคณะกรรมการส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ครั้งที่ 1/2558 ซึ่งขณะนี้เป็นช่วงที่จะต้องเร่งขับเคลื่อนในทุกมิติ เพราะเรื่อง SMEs เป็นเรื่องที่มีความสำคัญอย่างยิ่ง โดยได้มีการหารือกันในหลายระดับทั้งในเวทีต่างประเทศ อาทิ เรื่องการสร้างเศรษฐกิจให้มีความเข้มแข็งอย่างยั่งยืน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการส่งเสริมธุรกิจ SMEs ให้สามารถเข้าถึงกองทุน และโอกาส
ฉะนั้นจำเป็นจะต้องสร้างการรับรู้ในเชิงรูปธรรมให้มากขึ้น ในแเต่ละดับมีความเข้มแข็งอย่างไร มีจำนวนเท่าไร และต้องให้มีการจัดระเบียบโดยเร็ว เพื่อรัฐบาลจะเข้าไปขับเคลื่อนผลักดันสร้างห่วงโซ่นำไปสู่การเชื่อมโยงอย่างเป็นระบบและครบวงจร ทั้งนี้มีความคาดหวังว่าจะต้องเร่งส่งเสริม SME ในระยะที่ 1 ให้เกิดผลเป็นรูปธรรมที่ชัดเจนภายในเดือนธันวาคมนี้ เพื่อส่งเสริม SMEs ให้ได้ตามเป้าหมายที่กำหนด
ภายหลังเสร็จสิ้นการประชุม นายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมได้มีการหารือและพิจารณาในเรื่องของการปรับโครงสร้างสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) โดยจะมีการปรับรูปแบบของ สสว. ใหม่ เป็นลักษณะในเรื่องของการขับเคลื่อน การกำหนดจัดระเบียบ การจัดทำฐานข้อมูลต่าง ๆ ให้เกิดความชัดเจนมากยิ่งขึ้น เพราะที่ผ่านมาข้อมูลไม่มีความสมบูรณ์ทำให้นำไปใช้ประโยชน์ในการขับเคลื่อนได้ในระดับหนึ่งเท่านั้น
ที่ประชุมจึงได้เห็นชอบในหลักให้มีการปรับโครงสร้างสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) ใหม่ทั้งหมด โดยสิ่งที่ต้องเร่งดำเนินการในช่วงนี้คือการคัดเลือก SMEs ที่จะต้องเร่งส่งเสริมในระยะแรกเพื่อสร้างความเข้มแข็งให้ได้ภายในปีนี้ ประมาณ 77 แห่ง การจัดตั้งศูนย์บริการธุรกิจ SMEs แบบ One Stop Service ให้ได้โดยเร็ว เพื่อสร้างการรับรู้และการเข้าถึงทั้งเรื่องรายละเอียด ระเบียบและหลักเกณฑ์ต่าง ๆ ตลอดจนช่องทาง หรือการเข้าถึงแหล่งเงินทุน เป็นต้น
สำหรับสิ่งที่ฝากที่ประชุมไว้ในฐานะนายกรัฐมนตรี คือขอให้มีการดำเนินการให้ผู้ประกอบการ SMEs มาขึ้นทะเบียนให้เรียบร้อย โดยรัฐบาลจะดูแลสิทธิประโยชน์ให้กับ SMEs ที่ขึ้นทะเบียนในช่วงนี้อย่างเต็มที่ เพราะขณะนี้มี SMEs ขึ้นทะเบียนเพียงประมาณ 6 แสนกว่าราย จากทั้งหมดประมาณ 2 ล้านกว่าราย
ทั้งนี้หากไม่มาขึ้นทะเบียนก็ไม่อยู่ในกรอบกติกาที่รัฐบาลจะสามารถดูแลและส่งเสริมได้ ดังนั้นจึงขอให้ผู้ประกอบการ SMEs มาขึ้นทะเบียนเพื่อที่จะได้รับสิทธิประโยชน์ในด้านการส่งเสริมต่าง ๆ เช่น เรื่องเงินทุนส่งเสริม SMEs เป็นต้น รวมทั้งจะได้มีการจัดระเบียบและดำเนินให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ โดยมีการแบ่งการดำเนินการ SMEs เป็น 4 ระดับ 1) start ใหม่ 2) ขยายในประเทศ 3) ขยายไปสู่ตลาดต่างประเทศ และ4) ที่กำลังฟื้นฟูกิจการ โดยรัฐจะดูแลให้ครอบคลุมทุกกลุ่ม ทั้งนี้จะเริ่มดำเนินการระยะแรกในส่วนของ SMEs ที่ดำเนินกิจการดีอยู่แล้วให้สามารถขยายไปสู่ตลาดต่างประเทศได้ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจให้ดีขึ้นและมีขีดความสามารถในการแข่งขันในตลาดโลกต่อไป
ที่มา ฐานเศรษฐกิจ