แบงค็อค เอ็กซ์ซิบิชั่น มองธุรกิจงานแสดงสินค้าอุตสาหกรรมรุ่งสวนเศรษฐกิจชะลอตัว หลังผู้ประกอบการชิงพื้นที่เปิดโอกาสทางธุรกิจหาลูกค้าใหม่ โดยเฉพาะสินค้าที่ไม่รับผลกระทบชะลอตัวทางเศรษฐกิจ
แบงค็อค เอ็กซ์ซิบิชั่น มองธุรกิจงานแสดงสินค้าอุตสาหกรรมรุ่งสวนเศรษฐกิจชะลอตัว หลังผู้ประกอบการชิงพื้นที่เปิดโอกาสทางธุรกิจหาลูกค้าใหม่ โดยเฉพาะสินค้าที่ไม่รับผลกระทบชะลอตัวทางเศรษฐกิจ
มร.จัสติน พาว ผู้จัดการทั่วไป บริษัท แบงค็อค เอ็กซ์ซิบิชั่น เซอร์วิสเซส จำกัด หนึ่งในผู้นำด้านการจัดงานแสดงสินค้าระดับนานาชาติ เผยถึงการเติบโตของธุรกิจจัดงานแสดงสินค้าอุตสาหกรรมในช่วงภาวะที่เศรษฐกิจไทยชะลอตัวว่า สำหรับธุรกิจการจัดงานแสดงสินค้าโดยเฉพาะในกลุ่มสินค้าประเภทอุตสาหกรรมถือว่าไม่ได้รับผลกระทบจากภาวะชะลอตัวของเศรษฐกิจไทยและเศรษฐกิจโลกมากนัก ตรงกันข้ามยังมีการเติบโตได้เป็นอย่างดี
ทั้งนี้เนื่องจากผู้ผลิตผู้ประกอบการทั้งขนาดใหญ่และเล็กต่างมุ่งหาโอกาสทางการตลาดและลูกค้าใหม่ๆ เพิ่มขึ้น ซึ่งการเข้าร่วมออกงานแสดงสินค้ากับผู้จัดงานที่มีชื่อเสียง มีความน่าเชื่อถือ และ เป็นที่สนใจของเหล่านักธุรกิจถือว่าเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าถ้าเทียบกับการหาตลาดใหม่ด้วยวิธีอื่น เพราะสามารถพบปะกับกลุ่มลูกค้าเป้าหมายได้หลายรายในช่วงเวลาเดียวกัน พร้อมทั้งสามารถปิดการขายได้ในทันที
ซึ่งปัจจุบันงานแสดงสินค้าอุตสาหกรรมที่ถือเป็นงานแสดงสินค้าหลักของ แบงค็อค เอ็กซ์ซิบิชั่น เซอร์วิสเซส ได้แก่งาน โพรแพ็ค เอเชีย (ProPak Asia) และ งานฟู้ด แอนด์ โฮเทล ไทยแลนด์ (Food & Hotel Thailand) โดยทั้งสองงานมีการจัดงานอย่างต่อเนื่องกันมากว่า 26 ปี พร้อมได้รับการสนับสนุนและการร่วมมือจากทั้งจากหน่วยงานภาครัฐ สมาคม และ เอกชนที่เกี่ยวข้องมากมาย
นอกจากนี้ มร.จัสติน ยังกล่าวเพิ่มเติมถึงการที่ บริษัท แบงค็อค เอ็กซ์ซิบิชั่น เซอร์วิสเซส จำกัด ได้รับความไว้วางใจจากบริษัทแม่ คือ กลุ่มออลเวิร์ล เอ็กซ์ซิบิชั่น อีเวนท์ (An Allworld Exhibitions Event) ให้เป็นผู้นำในการขยายธุรกิจการจัดงานแสดงสินค้าอุตสาหกรรมไปยังประเทศในกลุ่มอาเซียน โดยเริ่มจาก เมียนมาร์ ลาว และ กัมพูชา เนื่องจากการรวมกลุ่มกันเป็น AEC ทำให้อาเซียนเป็นตลาดใหม่ที่มีกำลังซื้อสูงเพราะมีประชากรรวมกันกว่า 600 ล้านคน หรือ คิดเป็น 10% ของประชากรทั้งโลก
ซึ่งประเทศแรกที่ทางบริษัทฯ ได้เข้าไปบุกเบิกในการจัดงาน คือ สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาร์ หรือ ประเทศเมียนมาร์ โดยเป็นงาน ฟู้ด แอนด์ โฮเทล พม่า (Food & Hotel Myanmar) ซึ่งหลังจากมีการเผยแพร่รายละเอียดการจัดงานออกไป ก็ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากทั้งผู้ประกอบการไทยและต่างประเทศ เนื่องจากประเทศเมียนมาร์เป็นตลาดใหม่สำหรับนักธุรกิจและนักลงทุนจากทั่วโลก โดยเมียนมาร์ยังมีความต้องการการลงทุนด้านการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ และ ธุรกิจการจำนวนมาก ซึ่งเมียนมาร์เองก็มีความพร้อมทั้งในด้านของแรงงานและทรัพยากรธรรมชาติ ทำให้เป็นโอกาสอันดีของผู้ที่สนใจในการเปิดตลาดการค้ากับประเทศเพื่อนบ้านอย่างประเทศพม่า โดยงาน ฟู้ด แอนด์ โฮเทล พม่า มีกำหนดจัดงานขึ้นในวันที่ 3-5 มิถุนายน 2558 ผู้สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ วันทิตา พรธนาวงศ์ โทร 02-615-1255 ต่อ 123 หรือ wantita@besallworld.com