กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ โดยศูนย์พัฒนาการค้าและธุรกิจไทยในอาเซียน จัดให้มีกิจกรรมเสวนา “Scanning Asean 5 : เปิดมุมมองธุรกิจ จับตาเศรษฐกิจอาเซียน 5” ภายใต้โครงการพัฒนาและสร้างเครือข่ายผู้ประกอบการไทยสู่ตลาดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนประจำปี 2558 เพื่อให้การสนับสนุนผู้ประกอบการไ..
กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ โดยศูนย์พัฒนาการค้าและธุรกิจไทยในอาเซียน จัดให้มีกิจกรรมเสวนา “Scanning Asean 5 : เปิดมุมมองธุรกิจ จับตาเศรษฐกิจอาเซียน 5” ภายใต้โครงการพัฒนาและสร้างเครือข่ายผู้ประกอบการไทยสู่ตลาดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนประจำปี 2558 เพื่อให้การสนับสนุนผู้ประกอบการไทยได้ศึกษา วิเคราะห์ลู่ทาง โอกาสและผลกระทบต่างๆ พร้อมทั้งได้เตรียม ความพร้อมและพัฒนาขีดความสามารถในการขยายการดำเนินธุรกิจสู่กลุ่มอาเซียนเดิม
นางสาวบุญทิวา บุญจร รักษาการในตำแหน่งนักวิชาการพาณิชย์เชี่ยวชาญ เปิดเผยว่า กลุ่มประเทศอาเซียนเดิม เป็นกลุ่มที่มีความน่าสนใจในการทำการค้า การลงทุน และยังเป็นตลาดที่มีศักยภาพสูงสำหรับผู้ประกอบการไทย ซึ่งในปี 2557 มีมูลค่าการส่งออกรวม 3.87 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งคาดว่าการส่งออกจะเติบโตได้ 2-3% ในปีนี้ นอกจากนี้ IMF ยังคาดการณ์ว่าในปี 2558 GDP ของกลุ่มนี้น่าจะเติบโตได้ประมาณ 5.2% จึงถือว่าเป็นกลุ่มตลาดที่น่าจับตามองอย่างยิ่ง ไม่ว่าจะเป็นอินโดนีเซีย ซึ่งมีขนาดเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคอาเซียน มีการเติบโตของเศรษฐกิจอย่างรวดเร็วและมีเสถียรภาพจนเป็นประเทศที่มีเศรษฐกิจโตเร็วอันดับต้น ๆ ของโลก
มาเลเซีย ซึ่งมีนโยบายเปิดกว้างด้านการค้าการลงทุน เปิดรับการลงทุนจากต่างประเทศอย่างมาก โดยเฉพาะการลงทุนที่มีคุณภาพที่ครอบคลุมสาขาที่สร้างมูลค่าเพิ่ม (high-value added) เทคโนโลยีขั้นสูง (high- technology) ใช้องค์ความรู้ (Knowledge-intensive) และทักษะฝีมือ (skill-intensive) เนื่องจากมาเลเซียตั้งเป้าที่จะเป็นประเทศที่มีรายได้สูงและเป็นเศรษฐกิจบนฐานแห่งความรู้ (Knowledge Based Economy) ภายในปี 2020
ฟิลิปปินส์ ซึ่งมีอัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจอยู่ในระดับค่อนข้างสูงอย่างต่อเนื่อง ทำให้ได้รับการขนานนามจากธนาคารโลกว่าเป็น “มหัศจรรย์แห่งเอเชีย” (Asian Miracle)
สิงคโปร์ ซึ่งมีการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งที่สุดในภูมิภาค และเป็นประเทศที่เป็นพื้นฐานการผลิตด้านอุตสาหกรรมขั้นสูง รวมทั้งการให้การสนับสนุนด้านการคิดค้น/วิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ และให้สิทธิประโยชน์ในการลงทุนแก่นักลงทุนต่างประเทศอย่างเท่าเทียมกับนักลงทุนในประเทศ
นอกจากนี้ยังเป็นประเทศที่ทำธุรกิจในลักษณะ Trading Nation ซึ่งนักธุรกิจไทยสามารถใช้สิงคโปร์เป็นแหล่งส่งออก (Re-export) สินค้าไปสู่ประเทศที่สาม เพื่อขยายการส่งออก และบูรไน ซึ่งถึงแม้จะเป็นตลาดขนาดเล็ก แต่มีกำลังซื้อสูง ทั้งยังมีการแข่งขันค่อนข้างน้อยหากเทียบกับประเทศสมาชิกอาเซียนด้วยกัน โดยปัจจุบันรัฐบาลบรูไนให้ความสำคัญกับการพัฒนาภาคเศรษฐกิจอื่นนอกจากภาคพลังงานโดยไม่ต้องการพึ่งพาน้ำมันเพียงอย่างเดียว รวมถึงการส่งเสริมให้นักลงทุนต่างชาติเข้ามาลงทุนในประเทศ ผู้ประกอบการไทยจึงมีโอกาสทางการค้า การลงทุนสูง โดยเฉพาะธุรกิจภาคเกษตรและบริการ ที่ผู้ประกอบการไทยมีความเชี่ยวชาญ
กลุ่มผู้บริโภคในตลาดอาเซียน 5 นี้ มีแนวโน้มรายได้สูงขึ้น และนิยมสินค้าระดับบนเพิ่มขึ้น สินค้าไทยที่มีโอกาสเจาะตลาดกลุ่มนี้ ได้แก่ สินค้ากลุ่มอาหารสำเร็จรูป ไม่ว่าจะเป็นอาหารพร้อมรับประทาน อาหารฮาลาล สินค้าที่อำนวยความสะดวกสบาย ในชีวิตประจำวัน เช่น เครื่องใช้ไฟฟ้า/อิเล็กทรอนิกส์ อุปกรณ์การสื่อสาร/โทรศัพท์ มือถือ สินค้ากลุ่มยานยนต์ สินค้าเพื่อสุขภาพทั้งด้านอุปโภคและบริโภค โดยสินค้าที่จะเข้าไปเจาะตลาดกลุ่มนี้ ควรเน้นคุณภาพและมาตรฐานสินค้าในระดับสูง ตลอดจนนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีการผลิตใหม่ๆ เข้ามาเพิ่มมูลค่าสินค้าให้สูงขึ้น นอกจากนี้ ธุรกิจบริการของไทยโดยเฉพาะธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับการดูแลสุขภาพ อาทิ สปา ยังมีโอกาสขยายธุรกิจตามกระแสการดูแลสุขภาพในตลาดอาเซียน 5 โดยเฉพาะในกลุ่มผู้มีรายได้ปานกลางที่มีรายได้สูงขึ้นอีกด้วย”
กิจกรรมเสวนา “Scanning Asean 5 : เปิดมุมมองธุรกิจ จับตาเศรษฐกิจอาเซียน 5” จัดขึ้นโดยกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ และเป็นส่วนหนึ่งของโครงการพัฒนาและสร้างเครือข่ายผู้ประกอบการไทย สู่ตลาดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนประจำปี 2558 มีวัตถุประสงค์เพื่อช่วยเสริมสร้างแนวคิด และองค์ความรู้ ตลอดจนสร้างเครือข่ายให้แก่ผู้ประกอบการไทยที่มีความสนใจทำการค้าการลงทุนในกลุ่มอาเซียนเดิม