กระทรวงการคลัง รับไปพิจารณาเรื่องการชดเชยดอกเบี้ยให้ผู้ประกอบการ 3% และให้ผู้ประกอบการจ่ายดอกเบี้ยเองในอัตรา 4% ซึ่งเอสเอ็มอีแบงก์ ต้องทำรายละเอียดของโครงการเพื่อเสนอของคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติอีกครั้ง
รายงานข่าวจากกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ในการประชุมระหว่างสำนักงบประมาณ สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) และสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) และสมาพันธ์ตัวแทนผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อมหรือ เอสเอ็มอี ได้ข้อสรุปให้เดินหน้าตามมติของคณะรัฐมนตรี(ครม.) โดยเห็นชอบให้ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) หรือเอสเอ็มอีแบงก์ ปล่อยสินเชื่อโครงการดอกเบี้ยพิเศษ ในวงเงิน 1.5 หมื่นล้านบาท ระยะเวลา 5 ปี ตามข้อเรียกร้องของสมาพันธ์, สำนักส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและย่อม (สสว.) และสภาอุตสาหกรรม โดยกระทรวงการคลัง รับไปพิจารณาเรื่องการชดเชยดอกเบี้ยให้ผู้ประกอบการ 3% และให้ผู้ประกอบการจ่ายดอกเบี้ยเองในอัตรา 4% ซึ่งเอสเอ็มอีแบงก์ ต้องทำรายละเอียดของโครงการเพื่อเสนอของคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติอีกครั้ง
ทั้งนี้ เบื้องต้นสินเชื่อจำนวน 1.5 หมื่นล้านบาท จะแบ่งวงเงินปล่อยกู้ให้ผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจ 9,000 ล้านบาท, เอสเอ็มอีที่มีนวัตกรรม จำนวน 2,250 ล้านบาท และการปล่อยกู้ให้เอสเอ็มอีเพื่อรองรับการขยายตัวของเขตเศรษฐกิจพิเศษ หรือ เออีซี อีก 3,750 ล้านบาท ถ้าวงเงินไหนเต็มก่อนสามารถโยกเงินในโครงการอื่นมาปล่อยกู้ได้
นอกจากนี้ ยังเห็นชอบการขยายวงเงินปล่อยกู้ต่อรายจากไม่เกิน 15 ล้านบาท เป็นไม่เกิน 50 ล้านบาท เพื่อช่วยเหลือลูกหนี้เอสเอ็มอีที่ยื่นขอกู้ก่อนวันที่คณะกรรมการนโยบายและกำกับดูแลรัฐวิสาหกิจ(ซุปเปอร์บอร์ด)มีมติให้ลดวงเงินต่อรายเหลือ 15 ล้านบาท รวมถึงลูกค้าใหม่ที่มีศักยภาพ มีวงเงินปล่อยกู้รวมกันไม่เกิน 3,000 ล้านบาท สำหรับเรื่องการปล่อยกู้ให้ลูกหนี้ที่ติดอยู่ในเครดิตบูโร ได้ขอให้ทางเอสเอ็มอีแบงก์ ทำหลักเกณฑ์ปล่อยกู้ที่ชัดเจน เพื่อไม่ให้เกิดเป็นปัญหาหนี้เสียขึ้นอีกในอนาคต
นายสุพจน์ อาวาส กรรมการผู้จัดการ เอสเอ็มอีแบงก์ เปิดเผยว่า ธนาคารพร้อมเดินหน้าปล่อยกู้เพื่อช่วยผู้ประกอบการทันทีที่กระทรวงการคลัง อนุมัติ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการเตรียมเสนอรายละเอียดโครงการทั้งหมดให้พิจารณาอีกครั้ง ตามที่ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 17 มี.ค.2558 ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีได้มีมติอนุมัติในหลักการโครงการให้ความช่วยเหลือวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ตามที่พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ์ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ฐานะประธานคณะกรรมการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ ของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ เสนอ
ที่มา แนวหน้า