สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง เผย ฐานะการคลังของภาคสาธารณะ ไตรมาสแรก ปีงบประมาณ 58 รายได้รวม 1.78 ล้านล้านบาท
สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง เผย ฐานะการคลังของภาคสาธารณะ ไตรมาสแรก ปีงบประมาณ 58 รายได้รวม 1.78 ล้านล้านบาท
นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง แถลงฐานะการคลังของภาคสาธารณะตามระบบ สศค. (รัฐบาล องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) และรัฐวิสาหกิจ) ในช่วงไตรมาสแรกของปีงบประมาณ 2558 (ตุลาคม 2557 - ธันวาคม 2557) ว่า มีรายได้รวม 1,780,002 ล้านบาท ต่ำกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้ว 70,541 ล้านบาท หรือร้อยละ 3.8
สาเหตุจากรัฐวิสาหกิจมีรายได้ลดลง จำนวน 117,810 ล้านบาท เนื่องจาก บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ได้รับผลกระทบจากราคาน้ำมันที่ลดลงเป็นสำคัญ ในขณะที่ รัฐบาลและกองทุนนอกงบประมาณมีรายได้สูงกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้ว จำนวน 51,793 ล้านบาท โดยมีสาเหตุสำคัญจากการได้รับค่าใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่ 3G ย่าน 2.1 GHz ในงวดที่ 2 และกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงจัดเก็บรายได้เข้ากองทุนเพิ่มขึ้น
สำหรับด้านการเบิกจ่ายของภาคสาธารณะมีจำนวนทั้งสิ้น 2,016,676 ล้านบาท ต่ำกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้ว 78,485 ล้านบาท หรือร้อยละ 3.7 โดยรัฐวิสาหกิจและรัฐบาลมีการเบิกจ่ายลดลง จำนวน 116,329 และ 13,722 ล้านบาท ตามลำดับ ในขณะที่ อปท. มีการเบิกจ่ายเพิ่มขึ้น
ทั้งนี้ จากรายได้และรายจ่ายดังกล่าว ส่งผลให้ดุลการคลังภาคสาธารณะขาดดุล 236,674 ล้านบาท (คิดเป็นร้อยละ 1.9 ของ GDP) โดยขาดดุลลดลงจากช่วงเดียวกันปีที่แล้ว 7,944 ล้านบาท สำหรับดุลการคลังเบื้องต้นของภาคสาธารณะ (Primary Balance) ซึ่งเป็นดุลการคลังที่สะท้อนถึงผลการดำเนินงาน และทิศทางของนโยบายการคลังอย่างแท้จริง (ไม่รวมรายได้และรายจ่ายดอกเบี้ย รวมทั้งการชำระคืนต้นเงินกู้) ขาดดุล 179,512 ล้านบาท (คิดเป็นร้อยละ 1.4 ของ GDP)
นายกฤษฎาฯ สรุปว่า “การใช้จ่ายภาคสาธารณะ ยังคงเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยอย่างต่อเนื่อง”
ที่มา ไอ เอ็น เอ็น