​ตราดรุกท่องเที่ยวรับเขตเศรฐกิจเชื่อม 3 ประเทศ 8 จังหวัด

ตราดร่วมกับกัมพูชา เวียดนาม จัดแคมเปญเที่ยว 3 ประเทศ 8 จังหวัด เชื่อมท่องเที่ยวทางบก-เรือ ชูถนน R10 เป็น Road of the Paradise เล็งนำเอเย่นต์ 3 ประเทศนั่งคุย บูมการท่องเที่ยวรองรับเข้าสู่เออีซี



    ตราดร่วมกับกัมพูชา เวียดนาม จัดแคมเปญเที่ยว 3 ประเทศ 8 จังหวัด เชื่อมท่องเที่ยวทางบก-เรือ ชูถนน R10 เป็น Road of the Paradise เล็งนำเอเย่นต์ 3 ประเทศนั่งคุย บูมการท่องเที่ยวรองรับเข้าสู่เออีซี

    นางวิยะดา ซวง กรรมการสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดตราด เปิดเผยกับ "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า ผลการประชุมหารือเรื่องความร่วมมือพัฒนาการท่องเที่ยวระหว่างไทย-กัมพูชา-เวียดนาม เมื่อต้นเดือนเมษายนที่ผ่านมา มีผู้ร่วมประชุมจาก 8 เมือง 3 ประเทศ คือ จังหวัดตราด ประเทศไทย จังหวัดเกาะกง แกบ กำปอตพระสีหนุ พระตะบอง และโพธิสัตว์ ประเทศกัมพูชา และจังหวัดเกียนยาง ประเทศเวียดนาม

    โดยได้ผลสรุปเรื่องการท่องเที่ยว ดังนี้ 1.การลงนามเพื่อทำแคมเปญส่งเสริมการท่องเที่ยวร่วมกัน และเปิดเส้นทางทางเรือร่วมกันจากฟูก๊วก เวียดนามมาพระสีหนุ เกาะกง และเกาะช้าง 2.การร่วมมือกันในจังหวัดชายทะเล 6 เมือง 3 ประเทศ คือ ตราด เกาะกง แกบ กำปอต พระสีหนุและเกียนยาง โดยให้จัดตั้งชมรม "R10 Road of the Paradise" และกำหนดให้มีพิธีลงนามเปิดตัวเส้นทางตราด-แกบ-พระสีหนุในเดือนพฤษภาคม 2558 ที่กัมพูชา เพื่อเชื่อมโยงการท่องเที่ยวทางบก ทางเรือ เป็นการรองรับการเข้าสู่ประชาคมอาเซียนและเขตพัฒนาเศรษฐกิจของจังหวัดตราด 

    "ระยะ 4-5 เดือนที่ผ่านมา ตราดมีการจัดกรุ๊ปนักท่องเที่ยวเชื่อมโยงส่งมาจากฟูก๊วก เวียดนาม แกบ กำปอต และพระสีหนุมาเที่ยวเกาะช้าง จังหวัดตราด และพัทยาอยู่แล้ว แต่เป็นกรุ๊ปเล็ก ๆ เพียง 5-10 คน และยังเป็นเพียงเส้นทางทางบก คือ สาย R10 นอกจากนี้ เวียดนามได้เปิดเส้นทางอากาศเชื่อมโยงวันละ 3 เที่ยวบิน ฟูก๊วก-เสียมราฐอยู่แล้ว ที่ประชุมจึงเสนอให้จัดเส้นทางให้ผู้ประกอบธุรกิจการท่องเที่ยวได้เข้ามาท่องเที่ยวทางเรือ ตราด-เกาะกง-พระสีหนุ-กำปอต-แกบ-เกียนยางด้วย ซึ่งในระยะสั้นเดือนพฤษภาคมนี้ชมรม Road of the Paradise ได้ตกลงกันว่าควรเปิดเส้นทางทัวร์นำร่องทางบก ทางน้ำ ตราด-แกบ-เกียนยางก่อน โดยนำผู้ประกอบการ 3 ประเทศเข้ามาเที่ยวแบบเชื่อมโยง เปิดเป็นเส้นทาง R10 เป็นเส้นทางท่องเที่ยวจริง ๆ โดยเป้าหมายครั้งต่อไปจะจัดให้เอเย่นต์แต่ละบริษัททัวร์ชั้นนำของแต่ละประเทศมาคุยกัน เพื่อหาข้อสรุปที่จะให้บริการลูกค้าได้รับความสะดวกที่สุด เช่น ไกด์ที่สามารถพูดไทย กัมพูชา เวียดนามได้หรือการได้รับสิทธิพิเศษต่าง ๆ ของนักท่องเที่ยว 3 ประเทศ" นางวิยะดากล่าว

    ทางด้านนายเฮง สำริด นายอำเภอสำรูด จ.พระตะบองกล่าวว่า จังหวัดพระตะบองต้องการให้จังหวัดตราดเชื่อมโยงด้านการท่องเที่ยวเช่นกัน โดยอนุญาตให้ใช้บัตรผ่านแดน (Border Pass) ผ่านถึงตัวจังหวัดตราด และพระตะบอง เพราะปัจจุบันชาวกัมพูชานิยมเข้ามาเที่ยวกันเป็นครอบครัว แต่เข้ามาได้เพียงอำเภอบ่อไร่ และอำเภอสำรูด ที่ติดชายแดนเท่านั้น บางคนอาจจะเข้าไปซื้อสินค้าไทย รับประทานอาหารทะเลในจังหวัดตราด ส่วนพระตะบองเองต้องการเปิดให้เป็นเส้นทางท่องเที่ยวเช่นกันเพราะมีแหล่งท่องเที่ยวทางโบราณสถาน โบราณวัตถุ ธรรมชาติ และทางกัมพูชาเตรียมพัฒนาถนนลาดยางเชื่อมต่อจากอำเภอสำรูดไปจังหวัดพระตะบองต้นปี 2559 นี้

ที่มา ประชาชาติธุรกิจออนไลน์

NEWS & TRENDS