​แนะวิธีตรวจสอบ ‘ธุรกิจขายตรง’ แบบไหนจริง แบบไหนเก๊!!

เตือน!! ประชาชนก่อนร่วมทำธุรกิจขายตรง ควรเช็คข้อมูลเบื้องต้นว่า...นิติบุคคลมีการจดทะเบียนหรือไม่? ได้รับอนุญาตจากสคบ.หรือไม่? และมีแจ้งเตือนบนหน้าหนังสือรับรองที่กรมพัฒนาธุรกิจการค้าออกให้หรือไม่? เพื่อป้องกันความเสี่ยงและความเสียหายที่จะเกิดจากการ ถูกหลอกลวงตามมา


 
    เตือน!! ประชาชนก่อนร่วมทำธุรกิจขายตรง ควรเช็คข้อมูลเบื้องต้นว่า...นิติบุคคลมีการจดทะเบียนหรือไม่? ได้รับอนุญาตจากสคบ.หรือไม่? และมีแจ้งเตือนบนหน้าหนังสือรับรองที่กรมพัฒนาธุรกิจการค้าออกให้หรือไม่? เพื่อป้องกันความเสี่ยงและความเสียหายที่จะเกิดจากการ ถูกหลอกลวงตามมา

    นางสาวผ่องพรรณ เจียรวิริยะพันธ์ อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยว่า ปัจจุบันในโลกของธุรกิจมีลักษณะที่มุ่งหลอกลวงประชาชน ขาดความโปร่งใส และไม่ปฏิบัติตามหลักธรรมาภิบาลที่ดีมากขึ้น มีการวางแผนสร้างกลไกที่ซับซ้อน และมีกลอุบายในการชี้ชวนให้ผู้บริโภคคล้อยตามหลงเชื่อได้อย่างแยบยล สร้างความเสียหายให้กับผู้หลงเชื่อ และเป็นอุปสรรคต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศโดยรวม ดังจะเห็นได้จากเหตุการณ์ที่ปรากฏในข่าวปัจจุบันซึ่งได้สร้างความเสียหายในจำนวนที่สูงมาก อาทิ กรณีการขายตรงที่มีลักษณะหลอกลวงในรูปแบบแชร์ลูกโซ่ เป็นต้น

    ในฐานะที่กรมพัฒนาธุรกิจการค้าเป็นผู้ให้บริการในการจดทะเบียนจัดตั้งนิติบุคคล ดังนั้นเพื่อป้องกันความเสียหายที่จะเกิดขึ้นจากการแอบอ้างหลอกลวงประชาชนในลักษณะแชร์ลูกโซ่ที่อาจแฝงมาในรูปแบบธุรกิจขายตรงดังกล่าว กรมฯ จึงได้กำหนดหลักเกณฑ์และแนวทางในการป้องปรามการกระทำที่จะเกิดขึ้น 

    สำหรับกรณี ‘ธุรกิจขายตรงหรือการตลาดแบบตรง’ ผู้ประกอบธุรกิจจะต้องแสดงเอกสารทางราชการที่เป็น ‘ต้นฉบับ’ ได้แก่ บัตรประชาชน ทะเบียนบ้าน รวมถึงเอกสารแสดงฐานะทางการเงินจากธนาคารของหุ้นส่วนและผู้ถือหุ้นทุกคนต่อนายทะเบียนเพื่อตรวจสอบความน่าเชื่อถือ และต้องมีหนังสือยินยอมให้ใช้สถานที่จากเจ้าของสถานที่ที่สำนักงานจัดตั้งอยู่ด้วย 

    ทั้งนี้ ผู้ประกอบธุรกิจจะต้องแสดงเอกสารดังกล่าว ให้ครบถ้วนจึงจะสามารถจดทะเบียนจัดตั้งได้ อย่างไรก็ดีการจดทะเบียนตั้งธุรกิจในประเภทธุรกิจข้างต้นจะยังไม่เป็นผลสมบูรณ์ในทันที เพราะผู้ประกอบธุรกิจที่จะจดทะเบียนนิติบุคคลที่มี ‘วัตถุประสงค์’ ในการประกอบธุรกิจขายตรง และธุรกิจตลาดแบบตรงจะ ‘ต้องได้รับอนุญาต’ การดำเนินธุรกิจจาก ‘สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค’ เสียก่อน จึงจะมีผลสมบูรณ์เป็นไปตามที่กรมพัฒนาธุรกิจการค้าได้ออกระเบียบสำนักงานทะเบียนหุ้นส่วนบริษัทกลางว่าด้วยการจดทะเบียนห้างหุ้นส่วนและบริษัท (ฉบับที่ 9) พ.ศ. 2557 ซึ่งมีผลบังคับใช้ไปแล้วตั้งแต่วันที่ 3 พฤศจิกายน 2557                  
                                  
    กรมพัฒนาธุรกิจการค้าจึงขอแนะนำให้ผู้ประกอบธุรกิจและประชาชนที่จะทำธุรกิจกับนิติบุคคลประเภทธุรกิจขายตรง ควรตรวจสอบข้อมูลการจดทะเบียน วัตถุประสงค์การจัดตั้งของนิติบุคคลนั้นๆ ที่ต้องมีความถูกต้องตามขั้นตอนข้างต้นให้ดีก่อน รวมทั้งในหนังสือรับรองอาจมี ‘ข้อควรทราบ’ ที่นิติบุคคลบางราย      ถูกระบุไว้เพื่อเป็นข้อสังเกตในด้านความน่าเชื่อถือ โดยสามารถตรวจสอบด้วยตนเองผ่าน 3 ช่องทางได้ที่      1) สายด่วน 1570 2) www.dbd.go.th (หัวข้อคลังข้อมูลธุรกิจ) และ 3) ดาวน์โหลด Application ‘DBD e- Service’ ฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย

NEWS & TRENDS