ค.ร.ม.เห็นชอบร่าง พ.ร.บ.ภาษีสรรพสามิต และร่างประมวลกฎหมายเห็บภาษี คาดหากบังคับใช้เก็บรายได้เข้ารัฐเพิ่มได้กว่า 6 พันล้าน
ค.ร.ม.เห็นชอบร่าง พ.ร.บ.ภาษีสรรพสามิต และร่างประมวลกฎหมายเห็บภาษี คาดหากบังคับใช้เก็บรายได้เข้ารัฐเพิ่มได้กว่า 6 พันล้าน
พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมครม. เห็นชอบร่างพ.ร.บ.ให้ใช้ประมวลกฎหมายภาษีสรรพสามิต และร่างประมวลกฎหมายภาษีสรรพสามิต รวม 2 ฉบับ โดยรวบรวมกฎหมายการจัดเก็บภาษีสรรพสามิตเดิมที่มีอยู่ถึง 7 ฉบับ มารวมไว้เป็นฉบับเดียว เพื่อให้ง่ายต่อการบริหารจัดการ พร้อมกับปรับฐานการจัดเก็บภาษีใหม่ จากที่มีหลายมาตรฐาน ทั้งเก็บจากราคาหน้าโรงงาน ราคาขายส่งช่วงสุดท้าย และราคาซีไอเอฟ ในกรณีสินค้านำเข้า มาเป็นการเก็บจากราคาขายปลีกแนะนำ เพื่อป้องกันการหลีกเลี่ยงภาษีด้วยการแจ้งราคานำเข้าต่ำกว่าความเป็นจริง คาดว่า หากหากกฎหมายฉบับนี้บังคับใช้ จะทำให้กรมสรรพสามิตเก็บรายได้เพิ่มขึ้น 6,662 ล้านบาท
ทั้งนี้การแก้ไขกฎหมายดังกล่าว ด้วยการเก็บภาษีจากฐานราคาเดียว คือ ราคาขายปลีกนั้น รัฐไม่ไม่มุ่งเน้นว่ารายได้ของรัฐจะเพิ่มขึ้น แต่เป็นการสร้างความเป็นธรรมให้กับผู้ประกอบการอุตสาหกรรม และเพื่อไม่ให้เป็นภาระกับผู้ประกอบการและผู้บริโภค จะเสนอให้มีการปรับลดภาษีลงภายหลังด้วย ส่วนการเก็บภาษีที่คาดว่า จะเพิ่มขึ้น 6,662 ล้านบาทนั้น จะเพิ่มขึ้น 1.36% จากฐานประมาณการรายได้ของปีงบประมาณ 59
แบ่งเป็น รถยนต์ เพิ่มขึ้น 4,543 ล้านบาท ,สุรา เพิ่มขึ้น 896 ล้านบาท ,เบียร์ เพิ่มขึ้น 798 ล้านบาท ,ยาสูบ เพิ่มขึ้น 365 ล้านบาท และเครื่องดื่ม เพิ่มขึ้น 60 ล้านบาท สำหรับ สาระสำคัญของกฎหมายฉบับนี้ ได้เพิ่มบทบัญญัติให้มีคณะกรรมการวินิจฉัยภาษีสรรพสามิต ซึ่งเป็นไปตามแนวทาง เดียวกับกฎหมายของกรมสรรพากรและกรมศุลกากร และให้กำหนดราคาขาย และราคาสินค้านำเข้ากรณีไม่มีราคาขายปลีกแนะนำ หรือราคาขายปลีกแนะนำมีหลายราคา หรือราคาดังกล่าวไม่เป็นไปตามกลไกตลาด หรือไม่สอดคล้องกับความเป็นจริง เพื่อประโยชน์ในการบริหารการจัดเก็บภาษี และให้ผู้ประกอบอุตสาหกรรม ผู้นำเข้า แจ้งโครงสร้างต้นทุน เพื่อประโยชน์ในการตรวจสอบภาษี
ขณะที่ในกรณีการจ้างผลิต กำหนดให้ผู้ว่าจ้างมีหน้าที่และความรับผิดในการเสียภาษีร่วมกับผู้มีหน้าที่เสียภาษี เพื่อป้องกันการหลีกเลี่ยงภาษี ให้ผู้นำเข้าจดทะเบียนสรรพสามิตและจัดทำบัญชีเช่นเดียวกับผู้ประกอบอุตสาหกรรม เพื่อความเป็นธรรมและประโยชน์ในการตรวจสอบภาษี ให้มีบทบัญญัติเกี่ยวกับวิธีการแสดงการเสียภาษีนอกจากการใช้แสตมป์สรรพสามิต และเครื่องหมายแสดงการเสียภาษี เพื่อรองรับการเสียภาษีสินค้าสุราและสินค้าไพ่ พร้อมปรับปรุงอายุความในการประเมินภาษีจาก 2 ปี เป็น 3 ปี เพื่อประโยชน์ในการตรวจสอบภาษี เป็นต้น“
ที่มา : http://www.dailynews.co.th/economic/322339