รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาล เปิดเผยว่าในการประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่มีพล.อ.ประวิตรวงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม เป็นประธาน เมื่อเร็วๆ นี้ได้มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษเร่งสรุปแนวทางความเป็น..
รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาล เปิดเผยว่าในการประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่มีพล.อ.ประวิตรวงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม เป็นประธาน เมื่อเร็วๆ นี้ได้มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษเร่งสรุปแนวทางความเป็นไปได้ในการประกาศพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษตามศักยภาพของจังหวัดต่างๆนอกเหนือจากการเน้นพื้นที่บริเวณชายแดน
โดยให้ดูถึงจุดเด่นของแต่ละพื้นที่ว่ามีครัสเตอร์อุตสาหกรรมใดบ้างที่เหมาะสม เพื่อจูงใจให้เอกชนเข้ามาลงทุนในพื้นที่ ทั้งนี้สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.)ได้รายงานว่า เบื้องต้นได้แบ่งพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษตามศักยภาพของจังหวัดต่างๆ ออกเป็น 4 คลัสเตอร์หลัก คือ คลัสเตอร์ฐานการผลิตสินค้าไอที โดยจังหวัดที่มีศักยภาพเช่น จังหวัดนครราชสีมา จังหวัดฉะเชิงเทรา
คลัสเตอร์การผลิตข้าวที่เน้นการผลิตข้าวคุณภาพดีครบวงจร คือ จังหวัดยโสธร และ จังหวัดร้อยเอ็ด ,คลัสเตอร์ส่งเสริมภาคบริการ และนวัตกรรมภาคบริการ คือ จังหวัดปทุมธานี และคลัสเตอร์สุดท้ายเป็นการส่งเสริมด้านการท่องเที่ยว คือ จังหวัดภูเก็ตและที่เกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี “
ในการประชุมครั้งนี้ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ประธานคณะที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี และสมาชิก คสช. ได้ให้นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมช.คมนาคม และเลขาธิการสศช. ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการนโยบายเขตเศรษฐกิจพิเศษหรือกนพ. รายงานเรื่องการจัดคลัสเตอร์ หลังจากได้มอบหมายให้ไปจัดทำรายละเอียดที่เป็นจุดเด่นของแต่ละพื้นที่รวมถึงแผนการจัดทำเขตเศรษฐกิจพิเศษตอนในที่ไม่ได้ติดกับพื้นที่ชายแดนโดยได้เน้นย้ำว่าในแต่ละพื้นที่ของเขตเศรษฐกิจพิเศษจะต้องมีจุดเด่นเพื่อให้นักลงทุนเห็นถึงประโยชน์ในทางเศรษฐกิจที่จะเกิดขึ้นจากการลงทุนในแต่ละพื้นที่เป็นอันดับแรก”“
อ่านต่อที่ : http://www.dailynews.co.th/economic/322780