​ครม.ไฟเขียวสร้างศูนย์ขนส่ง จ.นครพนมรับเขตเศรษฐกิจพิเศษ

ครม.ไฟเขียว 1,111 ล้านบาท ก่อสร้างศูนย์การขนส่งชายแดน จ.นครพนม กว่า 600 ไร่ รับเขตเศรษฐกิจพิเศษ เชื่อมคมนาคมระบบราง กระจายสินค้าสู่ภูมิภาคอาเซียน



ครม.ไฟเขียว 1,111 ล้านบาท ก่อสร้างศูนย์การขนส่งชายแดน จ.นครพนม กว่า 600 ไร่ รับเขตเศรษฐกิจพิเศษ เชื่อมคมนาคมระบบราง กระจายสินค้าสู่ภูมิภาคอาเซียน

    พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผย ว่าการประชุมคณะรัฐมนตรีครั้งล่าสุด เห็นชอบใน "หลักการ" ให้กรมขนส่งทางบกดำเนินโครงการศูนย์การขนส่งชายแดนจังหวัดนครพนม วงเงิน 1,111.225 ล้านบาท ระยะเวลาดำเนินการ 4 ปี (พ.ศ. 2559-2562) ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ

    โดยให้มีการจัดทำรายละเอียดของการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชนที่เหมาะสม มีประสิทธิภาพ และเกิดประโยชน์สูงสุด เพื่อนำกลับมาเสนอให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง

    "แรกทีเดียวเป็นการเสนอให้โครงการก่อสร้างโดยรัฐทั้งหมด และให้เอกชนเป็นผู้รับสัมปทานเพื่อดำเนินบริหารจัดการ หาเครื่องมืออุปกรณ์ยกขน และบำรุงรักษาตลอดอายุสัมปทาน 10 ปี วงเงินประมาณ 177 ล้านบาท ซึ่งท่านนายกฯเห็นว่าเป็นโครงการที่มีมูลค่าการลงทุนสูง หากเป็นไปได้อยากให้เอกชนมาร่วมลงทุนตั้งแต่ต้น เพื่อประหยัดงบประมาณรายจ่ายบางส่วน

    ที่ประชุมมีมติรับหลักการและให้กลับไปจัดทำรายละเอียดสัดส่วนการลงทุน และผลตอบแทนการลงทุนให้ชัดเจน และให้เป็นไปตามกรอบของพ.ร.บ.การให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ พ.ศ. 2556 เพื่อนำเสนอครม.อีกครั้ง"

    สำหรับวัตถุประสงค์ของโครงการ ประกอบด้วย 1. เป็นศูนย์รวบรวมและกระจายสินค้า รองรับกิจกรรมการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศไทย ผ่านสาธารณรัฐประชาธิปไตยลาวทางถนนสาย R12 ไปยังสาธารณรัฐสังคมเวียดนาม และภาคตะวันตกของสาธารณรัฐประชาชนจีน โดยใช้สะพานข้ามแม่น้ำโขงแห่งที่ 3 (นครพนม)  

    2. เป็นศูนย์ให้บริการแบบเบ็ดเสร็จ (One stop service) สามารถดำเนินพิธีการที่เกี่ยวกับการนำเข้า และส่งออกได้ในจุดเดียว 

    3. เพื่อเตรียมการรองรับการเชื่อมต่อระบบการขนส่งจากถนนไปสู่ระบบรางในอนาคต และ 

    4. เพื่อเตรียมการรองรับการพัฒนาเขตเศรษฐกิจจังหวัดนครพนมในอนาคต

    โดยพื้นที่ก่อสร้างอยู่บริเวณด้านใต้ประชิดด่านพรมแดนไทย-ลาวบริเวณสะพานข้ามแม่น้ำโขงแห่งที่ 3 (นครพนม) ได้มีการจัดวางผังการใช้ประโยชน์ จำแนกตามพื้นที่กิจกรรมหลัก 5 ส่วน เนื้อที่รวม 606 ไร่ ได้แก่ 

ส่วนที่ 1 ศูนย์การขนส่งสินค้าเนื้อที่ 174 ไร่ 
ส่วนที่ 2 สถานีขนส่งผู้โดยสาร เนื้อที่ 53 ไร่ 
ส่วนที่ 3 ศูนย์ส่งเสริมเศรษฐกิจการค้าผ่านแดนของพาณิชย์ จ.นครพนม เนื้อที่ 35 ไร่ และพื้นที่พักอาศัยของเจ้าหน้าที่ศุลกากร เนื้อที่ 65 ไร่ 
ส่วนที่ 4 พื้นที่เปลี่ยนถ่ายรูปแบบการขนส่งสู่ระบบราง เนื้อที่ 194 ไร่ และส่วนที่ 5 ศูนย์ซื้อขายแลกเปลี่ยนสินค้า เนื้อที่ 85 ไร่

    "โครงการศูนย์การขนส่งชายแดนนี้ ถือเป็นโครงการที่กระจายความเจริญสู่ภูมิภาค กระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่ จ.นครพนม และใกล้เคียง รวมถึงสอดคล้องกับแนวนโยบายหลักในการผลักดันให้เกิดเขตเศรษฐกิจพิเศษ เพิ่มมูลค่าการค้าลงทุนในพื้นที่ชายแดนได้มากขึ้นในอนาคต"

    ทั้งนี้ คาดการณ์ปริมาณขนส่งสินค้าผ่านศูนย์การขนส่งชายแดน จ.นครพนม ที่จะเข้ามาใช้บริการสิ่งอำนวยความสะดวกด้านโลจิสติกส์ของศูนย์การขนส่งชายแดน แบ่งเป็นกลุ่มสินค้านำเข้าที่มีศักยภาพ 3 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มสินค้าทั่วไป อาทิ สินค้าแฟชั่น อุปโภคบริโภค  กลุ่มสินค้าไม้ และกลุ่มสินค้าอุตสาหกรรม โดยในปี 2565 จะมีปริมาณนำเข้า 3.27 แสนตัน เพิ่มขึ้นเป็น 3.76 แสนตัน ในปี 2570 ถึงปี 2580 เพิ่มขึ้นเป็น 4.76 แสนตัน

    และกลุ่มสินค้าส่งออกที่มีศักยภาพ 3 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มสินค้าทั่วไป กลุ่มสินค้าพลังงาน และกลุ่มสินค้ากสิกรรมและอุตสาหกรรมการเกษตร คาดการณ์ในปี 2565 จะมีปริมาณส่งออก 5.55 แสนตัน เพิ่มขึ้นเป็น 7.34 แสนตัน ในปี 2570 ถึงปี 2580 เพิ่มขึ้นเป็น 1.112 ล้านตัน 

ที่มา http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1432783427

NEWS & TRENDS