จับตาฟิลิปินส์แซงไทยหลังได้สิทธิ์จีเอสพีพลัสอียู ลดภาษี 0% พิเศษให้สินค้า 6.2 พันรายการ หวั่นกระทบยอดส่งออกสิ่งทอ-ทูน่า-สับปะรดไทยระส่ำ
จับตาปินส์แซงไทยหลังได้สิทธิ์จีเอสพีพลัสอียู ลดภาษี 0% พิเศษให้สินค้า 6.2 พันรายการ หวั่นกระทบยอดส่งออกสิ่งทอ-ทูน่า-สับปะรดไทยระส่ำ
แหล่งข่าวจากกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า สหภาพยุโรปได้ประกาศเลื่อนสถานะให้สิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากร (GSP) กับประเทศฟิลิปปินส์แบบจีเอสพีพลัส (GSP+) ทำให้สินค้าฟิลิปปินส์ที่ส่งออกไปสหภาพยุโรป 6,274 ประเภท มีอัตราภาษีเป็น 0% ที่แต่เดิมเสียภาษีนำเข้าค่อนข้างมาก และได้รับสิทธิพิเศษไม่ต้องเสียภาษีนำเข้าแล้ว ได้แก่ ทูน่า สับปะรด เสื้อผ้า สิ่งทอ จักรยาน รองเท้า หมวกและร่ม ส่งผลให้สินค้าจากฟิลิปปินส์มีราคาต่ำลง
"ฟิลิปปินส์จะได้เปรียบมาก ขึ้นในการแข่งขัน เพราะเป็นประเทศเดียวในอาเซียนที่ได้รับสิทธิพิเศษนี้ ขณะที่ไทยถูกตัดสิทธิ์ในปี 2558 ส่งผลให้กังวลว่าอาจเกิดปัญหาเบี่ยงเบนทางการค้า ผู้นำเข้าอาจหันไปซื้อจากฟิลิปปินส์เพิ่ม"
จากรายงานกรมศุลกากร ระบุว่า ยอดส่งออกไทยไปยังตลาดสหภาพยุโรป ช่วง 4 เดือนแรกตั้งแต่มกราคม-เมษายน 2558 มีมูลค่า 7,200.8 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลง 5.03% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีการส่งออก 7,581.9 ล้านเหรียญสหรัฐ
หากเปรียบเทียบการส่งออกสินค้ากลุ่มเดียวกับที่ฟิลิปปินส์ได้จีเอสพีพลัส เช่น รองเท้าและชิ้นส่วน มูลค่า 62.7 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลง 2.83% รถจักรยานและส่วนประกอบ มูลค่า 38.7 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลง 0.62% อาหารทะเลกระป๋องและแปรรูป มูลค่า 120.5 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลง 11.45% ผลไม้กระป๋องและแปรรูป มูลค่า 109.1 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลง 1.03% เครื่องนุ่งห่มมูลค่า 188.4 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลง 13.94%
ด้านนาย วัลลภ วิตนากร ที่ปรึกษาสมาคมอุตสาหกรรมเครื่องนุ่งห่มไทย ประธานบริษัท ไฮ-เทค แอพพาเรล จำกัด กล่าวว่า การที่ฟิลิปปินส์ได้สิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากรเป็นการทั่วไปเพิ่มเติม หรือจีเอสพีพลัส จากสหภาพยุโรป (อียู) ในกลุ่มสินค้าเครื่องนุ่งห่ม อาจจะส่งผลให้อัตราภาษีมีความแตกต่างกัน
"แม้ว่าโดยปกติฟิลิปปินส์ ไม่ใช่ผู้ผลิตสินค้าเครื่องนุ่งห่มมากนัก เพราะปัจจุบันแรงงานในอุตสาหกรรมเครื่องนุ่งห่มของฟิลิปปินส์เคลื่อนย้ายออก ไปใช้แรงงานในต่างประเทศจำนวนมาก แต่ล่าสุดนักลงทุนจากจีน และญี่ปุ่นได้ให้ความสนใจที่จะเข้าไปลงทุนในอุตสาหกรรมเครื่องนุ่งห่มใน ฟิลิปปินส์มากขึ้น โดยขณะนี้เป็นช่วงที่กำลังขยายตัวของอุตสาหกรรมเครื่องนุ่งห่มในฟิลิปปินส์"
นาย วัลลภกล่าวว่า ตลาดยุโรปไม่ได้มองจีเอสพีพลัสเป็นแรงจูงใจเพียงอย่างเดียว แต่ยังดูปัจจัยอื่น ๆ ด้วย หลังจากไทยถูกตัดสิทธิพิเศษจีเอสพีก็ส่งผลต่อศักยภาพการแข่งขัน เพราะคู่แข่งเวียดนามยังมีจีเอสพี และได้รับการลดภาษี 2.4% อีกทั้งเวียดนามยังอยู่ระหว่างการเจรจาจัดทำความตกลงเปิดเขตการค้าเสรี (เอฟทีเอ) กับสหภาพยุโรป จะเจรจาจบในเร็ว ๆ นี้ และยังเจรจาจัดทำข้อตกลงหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ทางเศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิก (TPP) อีกด้วย
ส่วนประเทศผู้ผลิตเครื่องนุ่งห่มที่เป็นคู่แข่งไทย เช่น อินโดนีเซียยังได้จีเอสพี อัตราภาษีนำเข้าเพียง 2.4% กัมพูชาได้จีเอสพี ภาษี 0% ทั้งหมดจึงเป็นเหตุให้ผู้ประกอบการไทยกลุ่มอุตสาหกรรมเครื่องนุ่งห่ม ต้องปรับตัวขยายฐานเพื่อส่งออกไปในตลาดสำคัญ เช่น ตลาดอียู ตลาดสหรัฐ
ที่มา ประชาชาติธุรกิจออนไลน์