ฉลาก UPCYCLE CO2 สำหรับผู้ประกอบการตลาดสีเขียว เวอร์ชั่นนี้คือเวอร์ชั่นใหม่ล่าสุด ที่ใช้เป็นฉลากรับรอง ความเป็น "สินค้าที่นำขยะของเหลือใช้ แล้วนำกลับมาทำใหม่"
ฉลาก UPCYCLE CO2 สำหรับผู้ประกอบการตลาดสีเขียว เวอร์ชั่นนี้คือเวอร์ชั่นใหม่ล่าสุด ที่ใช้เป็นฉลากรับรอง ความเป็น "สินค้าที่นำขยะของเหลือใช้ แล้วนำกลับมาทำใหม่"
แบบเดียวกับฉลาก ISO รุ่นต่างๆ ที่รับรองมาตรฐานของโรงงาน แต่ ฉลาก อัพไซเคิล คาร์บอนฟรุตพรินต์ (UPCYCLE CO2) ที่กำลังจะออกมาในเดือนกันยายนนี้ เป็นการต่อยอดจากฉลาก จี อัพไซเคิล ภาคภาษาไทย ที่ออกมาก่อนหน้านี้
ฉลาก UPCYCLE CO2 ถูกพัฒนาให้ใช้ง่ายขึ้น โดยกรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม และองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก ร่วมกับสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ หรือ สวทช. และมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ร่วมกันพัฒนาออกมาในเวอร์ชั่นใหม่ล่าสุด
เวอร์ชั่นนี้ เป็นเวอร์ชั่น 2 ภาษาไทยและอังกฤษ เหมาะสำหรับคนที่กำลังจะส่งออกผลิตภัณฑ์อัพไซเคิล หรือที่มาจากของเหลือโรงงาน ส่งออกไปยุโรปหรือที่อื่น ๆ ได้ โดยที่มีมาตรฐานรับรอง
ซึ่งที่ผ่านมาผู้ประกอบการสะท้อนว่า บายเออร์ ซับพลายเออร์ จะถามว่าใช่ตัวจริงหรือไม่ เป็นเศษขยะจริง ๆ หรือทำขึ้นมาใหม่ มีปริมาณมากหรือไม่ หากจะสั่งจำนวนมาก ๆ
ทั้ง 4 สถาบันจึงร่วมกันคิดระบบ รับรองมาตรฐาน พัฒนาบุคลากร หรือผู้ตรวจทาน และมีการคิดค่าคาร์บอนฟรุตพรินต์ จากกระบวนการผลิตอัพไซเคิล โดยใช้แอปพลิเคชั่นคำนวณ ช่วยให้ง่ายขึ้น และสะดวกขึ้น รวมทั้งรายละเอียดต่าง ๆ เป็นทั้งภาษาไทย และภาษาอังกฤษ ที่ผู้ประกอบการสามารถที่จะเอาตรารับรองนี้ไปการันตีสินค้าก่อนที่จะส่งออกได้เลย
ทั้งนี้ ไทยเป็นชาติแรกในโลกที่มีการพัฒนาระบบรับรอง สำหรับสินค้าอัพไซเคิลขึ้นมาและทำมาต่อเนื่องตลอดสามปี โดยกิจกรรมที่จะเดินหน้าต่อไปก็คือ การประชาสัมพันธ์ฉลากอัพไซเคิล คาร์บอนฟรุตพรินต์ ในประเทศที่มีนโยบาย หรือทิศทางที่ชัดเจนในการสนับสนุนสินค้าจากการนำกลับมาทำใหม่ และเป็นประเทศผู้นำทางด้านนี้ ไม่ว่าจะเป็น UnmakingWaste 2015 ประเทศออสเตรเลีย มีการจัดงานทั้งการสัมมนาเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม วัสดุใหม่ ๆ จากการอัพไซเคิล
ขณะที่เยอรมนี ในปีนี้จะมีการจัดงาน ECO STYLE ด้านสินค้ากรีนโดยเฉพาะ จากแต่ก่อนที่จะเป็นเพียงพาวิเลียนหนึ่งในงานแสดงสินค้าประจำปี ไม่ว่าจะเป็นงานด้านการออกแบบ ดีไซน์ต่าง ๆ ซึ่งไทยโดย ดร.สิงห์ อินทรชูโต เป็นตัวแทนในการเดินทางโปรโมตฉลาก และคัดเลือกผู้ประกอบการจำนวน 10 ราย ที่จะไปออกงานทางด้านนี้โดยตรง ในประเทศเยอรมนี ญี่ปุ่น สิงคโปร์ด้วย
ที่มา ประชาชาติธุรกิจออนไลน์