​สนช.แนะอุดรูรั่วระบบภาษีหลังใบกำกับภาษีปลอมเพียบ

สนช.แนะอุดรูรั่วระบบภาษี หลังพบพ่อค้าแห่ออกใบกำกับภาษีปลอม โดยเฉพาะภาษีแวต จี้กรมสรรพากรปรับปรุงระบบจัดเก็บภาษีให้ทันสมัย



    สนช.แนะอุดรูรั่วระบบภาษี หลังพบพ่อค้าแห่ออกใบกำกับภาษีปลอม โดยเฉพาะภาษีแวต จี้กรมสรรพากรปรับปรุงระบบจัดเก็บภาษีให้ทันสมัย

    รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาล เปิดเผยว่า ที่ประชุมครม.ได้รับทราบรายงานของคณะกรรมาธิการการเศรษฐกิจ การเงินและการคลัง สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) เรื่องการเพิ่มประสิทธิภาพการจัดเก็บภาษีของกรมสรรพากร โดยคณะกรรมาธิการฯ ได้ศึกษาสภาพปัญหาในการจัดเก็บภาษี โดยเฉพาะภาษีมูลค่าเพิ่ม (แวต) พบว่า เจ้าหน้าที่กรมสรรพากรไม่สามารถตรวจสอบยอดซื้อและยอดขายที่แท้จริงได้ซึ่ง เกิดจากปัจจัยหลายสาเหตุ 

    เช่น บริษัทผู้ผลิตขนาดกลางและขนาดเล็ก ผู้ขายส่ง และผู้ขายปลีก จะออกใบกำกับภาษี ขายและจะแจ้งยอดซื้อไม่ครบถ้วน และพบอีกว่า ผู้ประกอบการออกใบกำกับภาษีปลอมทั้ง ๆ ที่ไม่ได้ขายสินค้า และจะใช้ใบกำกับภาษีปลอมมาขอคืนภาษี 

    ทั้งนี้ คณะกรรมาธิการฯ มีข้อเสนอแนะให้กรมสรรพากรดำเนินการ คือ ให้พัฒนาและปรับปรุงโครงสร้างระบบการจัดเก็บภาษีอากรให้ทันสมัย มีมาตรฐาน และตอบสนองนโยบายเศรษฐกิจดิจิทัลของรัฐบาล โดยต้องวางแผนดำเนินการในภาพรวมทั้งระบบ พร้อมกำหนดระยะเวลาในการดำเนินการแล้วเสร็จไว้ให้ชัดเจนและ เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดในการจัดเก็บภาษี ควรศึกษาถึงความเป็นไปได้และนำข้อที่เห็นว่าเป็นประโยชน์ของระบบจัดเก็บภาษี จากข้อมูลทอดแรก มาปรับใช้กับระบบใบเสร็จรับเงินอิเล็กทรอนิกส์ 

    นอกจากนี้ ควรหามาตรการจูงใจ เพื่อให้ผู้ประกอบการเข้าสู่ระบบใบเสร็จรับเงิน อิเล็กทรอนิกส์ เพิ่มขึ้น จากปัจจุบันมีผู้ประกอบการอยู่ในระบบประมาณ10ราย และควรหามาตรการจูงใจเพื่อให้ผู้เสียภาษีเรียกใบกำกับภาษีทางอิเล็กทรอนิกส์ เมื่อซื้อสินค้าหรือใช้บริการอีกทางหนึ่งด้วย รวมทั้งควรเร่งรัดการดำเนินโครงการระบบใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ให้แล้ว เสร็จโดยเร็ว จากเดิมตั้งเป้าหมายให้เสร็จทั้งระบบภายในเวลา 10 ปีเหลือ 6 ปี 

    ขณะเดียวกันควรประชาสัมพันธ์ให้ภาคเอกชนและผู้ประกอบการได้รับทราบและมีความ เข้าใจในระบบต่างๆที่ดำเนินการอยู่ เช่น ระบบใบกำกับภาษีและใบเสร็จรับเงินอิเล็กทรอนิกส์ ทั้ง นี้ครม.ได้ให้กระทรวงการคลังรับข้อสังเกตและข้อเสนอแนะของคณะกรรมาธิการฯไป พิจารณาว่าจะดำเนินการได้หรือไม่ และแจ้งผลการดำเนินการให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีทราบภายใน30วัน เพื่อเสนอครม.ต่อไป“

ที่มา : http://www.dailynews.co.th/economic/327111

NEWS & TRENDS