ส.อ.ท.มองค่าแรงที่จะปรับปี 59 ควรปรับเป็นรายจังหวัด เผยหากปรับขึ้นเท่ากันหมด SMEs ส่อแววทยอยปิดกิจการ พร้อมเตรียมยื่นเรื่องให้ กกร.ำพิจารณาต้นเดือนกรกฎาคมนี้
นายศักดิ์ชัย อุ่นจิตติกุล ประธานสถาบันวิสาหกิจขนาดกลาง และขนาดย่อมอุตสาหกรรมการผลิต (เอสเอ็มไอ) สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า สถานการณ์วิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม หรือ เอสเอ็มอีในปัจจุบันได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจในประเทศและเศรษฐกิจโลก ทำให้ยอดขายตกและส่งผลกระทบต่อการผ่อนส่งเงินกับสถาบันการเงินจากการกู้เพื่อไปลงทุน ทำให้ต้องมีการเจรจาเพื่อปรับโครงสร้างหนี้ใหม่เป็นจำนวนมาก แต่ถือเป็นสถานการณ์ปกติเมื่อขายสินค้าไม่ได้ ก็ไม่มีเงินทุนมาหมุนเวียน
อย่างไรก็ดี ขณะนี้ทางรัฐบาลได้มีมาตรการที่จะช่วยเหลือการเข้าถึงแหล่งเงินทุนของผู้ประกอบการหลายโครงการแล้ว อาทิ โครงการให้สินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ 4% ให้กับเอสเอ็มอี โครงการสินเชื่อเพื่อปรับเปลี่ยนเครื่องจักร
ส่วนกรณีการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำทั่วประเทศขึ้นในปีหน้า ตามนโยบายของรัฐบาลที่แล้วนั้น เห็นว่าควรปรับขึ้นเป็นรายจังหวัดภายใต้ดุลยพินิจของคณะกรรมการไตรภาคีในแต่ละพื้นที่ แต่ไม่ควรต่ำกว่าฐานขั้นต่ำเดิมที่ 300 บาทต่อวัน
ส.อ.ท.มองว่า หากปรับขึ้นทั่วประเทศเท่ากันก็จะเหมือนรัฐบาลที่ผ่านมาจนทำให้เอสเอ็มอีได้รับผลกระทบ และทำให้เอสเอ็มอีทยอยปิดกิจการจำนวนมาก ซึ่งทาง สอท.จะมีการนำเรื่องนี้เสนอให้คณะกรรมการร่วม 3 สถาบันภาคเอกชน (กกร.) พิจารณาในการประชุมต้นเดือนก.ค.2558 นี้
นายศักดิ์ชัยกล่าวว่า ในครึ่งปีหลังนี้คงต้องจับตาเศรษฐกิจโลกที่จะเป็นตัวชี้วัดเศรษฐกิจไทย หากทั่วโลกมีทิศทางที่ดีขึ้นก็จะเป็นปัจจัยหนุนให้ผู้ประกอบการสามารถดำเนินธุรกิจต่อไป รวมทั้งหากการเบิกจ่ายของภาครัฐเป็นไปตามเป้าที่วางไว้ ก็จะกระตุ้นกำลังซื้อของผู้บริโภคเพิ่มขึ้น
ที่มา http://www.naewna.com/business/165995
