นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ระบุว่า เห็นด้วยกับปรับคณะรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจ เนื่องจากที่ผ่านมา การแก้ปัญหาเศรษฐกิจในหลายเรื่องทำได้ช้า
นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ระบุว่า เห็นด้วยกับปรับคณะรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจ เนื่องจากที่ผ่านมา การแก้ปัญหาเศรษฐกิจในหลายเรื่องทำได้ช้า โดยเฉพาะการแก้ปัญหาธุรกิจขนาดกลางและขนาดเล็ก หรือเอสเอ็มอี ซึ่งได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจโดยตรง แม้ว่ารัฐบาลให้รัฐวิสาหกิจกระทรวงการคลังขยายวงเงินค้ำประกันเอสเอ็มอีเพิ่ม จากร้อยละ18 เป็น 30 แต่ต้องใช้เวลาพิจารณายาวนาน ทำให้ไม่ทันต่อความต้องการในการช่วยเหลือเอกชน โดยเฉพาะเอสเอ็มอีซึ่งถือว่ามีความสำคัญต่อเศรษฐกิจมาก
นายสุพันธ์ กล่าวว่า หากมีการปรับคณะรัฐมนตรี ต้องการให้เร่งแก้ปัญหาภาคการเกษตรและธุรกิจเอสเอ็มอี เพราะหากแก้ปัญหากลุ่มนี้ได้จะทำให้เศรษฐกิจในประเทศและทำให้เศรษฐกิจในประเทศฟื้นตัวเร็วยิ่งขึ้น
โดยหัวหน้าทีมเศรษฐกิจคนใหม่ ควรเป็นผู้เข้าใจเศรษฐกิจจุลภาคมากกว่ามหภาคย์ สามารถประสานงานกับเอกชน เพื่อแก้ปัญหาได้อย่างคล่องตัว
ส่วนสถานการณ์ค่าเงินบาทที่อ่อนค่าลงมากในขณะนี้ยังไม่ถือว่าเป็นความผันผวนเนื่องจากก่อนหน้านี้ค่าเงินสกุลอื่นอ่อนค่าลงไปก่อนแล้ว เงินบาทเพิ่งจะอ่อนค่าตามหลังสกุลเงินอื่นๆ ซึ่งเท่ากับว่าไทยไม่ได้มีความได้เปรียบประเทศอื่นๆในเรื่องอัตราแลกเปลี่ยน
อย่างไรก็ตาม การจะหวังพึ่งภาคส่งออกในช่วงนี้ยังถือว่ามีความเสี่ยงสูง เพราะเศรษฐกิจโลกมีสัญญาณฟื้นตัวค่อนข้างช้า ดังนั้น จึงควรหันมาเน้นการกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศโดยเติมเงินใส่ไปในมือผู้มีรายได้น้อยไม่ว่าจะเป็นธุรกิจเอสเอ็มอีหรือเกษตรกรเพราะเป็นกลุ่มที่ใช้จ่ายเงินทำให้เกิดการหมุนเวียนในระบบส่งผลดีต่อภาพรวมเศรษฐกิจของประเทศ มากกว่าไปเน้นเรื่องการส่งออก