กกร.เสนอรัฐบาลรื้อฟื้นคณะกรรมการพัฒนาการส่งออกเพื่อแก้อุปสรรคการส่งออกในระยะสั้นนี้ โดยควรจะต้้งคณะกรรมการชุดนี้ขึั้นภายใน 1-2 เดือนนับจากนี้ไป
กกร.เสนอรัฐบาลรื้อฟื้นคณะกรรมการพัฒนาการส่งออกเพื่อแก้อุปสรรคการส่งออกในระยะสั้นนี้ โดยควรจะต้้งคณะกรรมการชุดนี้ขึั้นภายใน 1-2 เดือนนับจากนี้ไป
นายบุญทักษ์ หวังเจริญ ประธานสมาคมธนาคารไทย กล่าวภายหลังการประชุมคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบันหรือ กกร. ว่า กกร.จะเสนอให้รัฐบาลโดยอาจเสนอผ่านคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนในการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ(กรอ.) ให้ รื้อฟื้น คณะกรรมการพัฒนาการส่งออกขึ้นมาอีกครั้ง โดยควรจะตั้งคณะกรรมชุดนี้ขึ้นภายใน 1-2 เดือนนับจากนี้ไป
ทั้งนี้ เพื่อให้เป็นกลไกหลักในการแก้ไขปัญหาการส่งออกของไทยอย่างเป็นระบบ รวมถึงประเด็นปัญหาอุปสรรคทางการค้าต่าง ๆ ที่มีอยู่ รวมถึงเร่งขีดความสามารถในการส่งออกของประเทศให้ดีขึ้นอย่างบูรณาการ ซึ่งในการเร่งรัดการส่งออกนั้น ภาคเอกชนเสนอประเด็นปัญหาอุปสรรคทางการค้าที่ต้องการให้ภาครัฐผลักดันเพื่อเร่งรัดการส่งออก 12 กลุ่มสินค้า ตามที่กระทรวงพาณิชย์ริเริ่ม ซึ่งกกร.จะเสนอกระทรวงพาณิชย์พิจารณาในอีก 2 เดือนข้างหน้า
นายอิสระ กล่าวว่า คณะกรรมการพัฒนาการส่งออก เดิมประธานคือ นายกรัฐมนตรีหรือรองนายกฝ่ายเศรษฐกิจ แต่มีหลายประเด็นทั้งการเงิน ด้านศุลกากรเกี่ยวข้องกับด่านชายแดน ดังนั้นผู้ที่เป็นประธาน จึงน่าจะเป็นบุคคลที่นายกรัฐมนตรีเห็นว่ามีความเหมาะสม
นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.) กล่าวว่า การแก้ไขปัญหาการส่งออก นอกจากกระทรวงพาณิชย์แล้ว ยังมีกระทรวงการคลัง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และกระทรวงที่เกี่ยวข้อง ที่จะช่วยกันแก้ไขปัญหาและสนับสนุนการส่งออก จึงได้เสนอให้รื้อฟื้นคณะกรรมการพัฒนาการส่งออกขึ้น ทั้งนี้เพื่อบูรณาการพัฒนาการส่งออกทั้งในระยะสั้นและระยะยาวต่อไป
นายบุญทักษ์ กล่าวถึงเงินบาทอ่อนค่าในช่วงที่ผ่านมา และในวันศุกร์ที่ผ่านมาอ่อนค่าต่ำสุดในรอบ ๖ ปี นับเป็นประโยชน์ต่อภาคการ ส่งออกของประเทศ อย่างไรก็ตาม ขณะนี้หลายประเทศเริ่มเห็นว่า เสถียรภาพของเงินตรามีความสำคัญมากกว่าค่าเงินที่อ่อนลงเพื่อช่วยการส่งออก ส่วนประเทศไทยเงินบาทที่อ่อนลงยังมีประโยชน์ต่อการส่งออก และไทยยังมีดุลการชำระเงินที่ดี และ ทุนสำรองเงินตราระหว่างประเทศยังมีมาก จึงเป็นประโยชน์ต่อการส่งออก แต่ที่จริงแล้วค่าเงินขึ้นกับหลายปัจจัยหาใช่ปัจจัยหนึ่งปัจจัยใดเป็นการเฉพาะ
ที่มา - http://www.tnamcot.com/content/250146 : สำนักข่าวไทย