กสอ. ร่วมกับวิทยาลัยนวัตกรรมมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และบริษัท ซีเอสล็อกซอินโฟ จำกัด (มหาชน) พัฒนาระบบซอฟต์แวร์ “ERP by DIP” สำหรับ SME โดยเฉพาะ เพื่อใช้จัดซื้อจัดจ้าง การผลิต การขาย การกระจายสินค้า การเงินและการบัญชี รวมทั้งการบริหารบุคคล เชื่อมโยงเป็นระบบเดียวกัน เพื่อให้สามารถท..
กสอ. ร่วมกับวิทยาลัยนวัตกรรมมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และบริษัท ซีเอสล็อกซอินโฟ จำกัด (มหาชน) พัฒนาระบบซอฟต์แวร์ “ERP by DIP” สำหรับ SME โดยเฉพาะ เพื่อใช้จัดซื้อจัดจ้าง การผลิต การขาย การกระจายสินค้า การเงินและการบัญชี รวมทั้งการบริหารบุคคล เชื่อมโยงเป็นระบบเดียวกัน เพื่อให้สามารถทำงานได้แบบ Real Time
นายอาทิตย์ วุฒิคะโร อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) เปิดเผยว่า จากการส่งเสริมให้ภาคอุตสาหกรรมของไทยเพิ่มศักยภาพการแข่งขันโดยการนำระบบไอทีมาใช้ในช่วงที่ผ่านมา พบว่าระบบ Enterprise Resource Planning หรือ ERP เป็นชุดโปรแกรมเบื้องต้นที่จะทำให้ภาคธุรกิจสามารถทำงานอย่างเป็นระบบและยกระดับการพัฒนาได้เป็นอย่างดี แต่เนื่องจากที่ผ่านมาระบบนี้จะมีราคาค่อนข้างสูงทำให้มีเพียงบริษัทใหญ่ๆ ที่มีต้นทุนการดำเนินการสูงเท่านั้นที่จะยอมลงทุน แต่ขณะเดียวกันกลุ่มธุรกิจ SME กลับต้องเลือกใช้ซอฟต์แวร์เฉพาะด้านขนาดเล็ก
ดังนั้นกสอ. จึงได้จัดตั้งโครงการ ระบบซอฟต์แวร์ ERP by DIP สำหรับ SME ไทยขึ้น ภายใต้โครงการ “ดิจิทัลเอสเอ็มอี” โดยร่วมมือกับวิทยาลัยนวัตกรรม มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ซึ่งจะรับผิดชอบด้านการบริหารโครงการ การจัดหาซอฟต์แวร์ ERP ที่เหมาะสมมาปรับแต่งให้เข้ากับธุรกิจ SME ทั้งภาคอุตสาหกรรมและภาคธุรกิจปกติ รวมถึงการพัฒนาซอฟต์แวร์อย่างต่อเนื่อง จัดอบรมผู้ประกอบการ และอื่นๆ
โดยมีบริษัท ซีเอสล็อกซอินโฟ จำกัด (มหาชน) ดูแลทางด้านการเป็นศูนย์ข้อมูลคอมพิวเตอร์ หรือ Data Center จัดระบบให้ซอฟต์แวร์ ERP นี้เข้าสู่ระบบคลาวด์คอมพิวติ้ง ที่จะทำให้ภาคธุรกิจสามารถเข้าใช้งานซอฟต์แวร์โดยไม่ต้องติดตั้งเซิร์ฟเวอร์ ลงโปรแกรม และดูแลอุปกรณ์เครือข่ายเอง โดยในปีแรกจะใช้งบประมาณสนับสนุนประมาณ 5 ล้านบาท เพื่อมีระบบ ERP ให้ผู้ประกอบการธุรกิจขนาดเล็กได้ใช้งานโดยไม่คิดมูลค่า
นายอาทิตย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ระบบซอฟต์แวร์ ERP by DIP สำหรับ SMEs ไทย ที่จะให้กลุ่ม SME เข้ามาใช้ฟรีในโครงการนี้จะประกอบด้วย ระบบการซื้อ-ขาย, ระบบงานผลิตสินค้า, ระบบบัญชี, ระบบการจ่ายชำระ รวมถึงระบบการจัดเก็บเอกสาร เป็นภาพรวมระบบที่ใช้ในการวางแผนทรัพยากรทางธุรกิจขององค์กรโดยรวมหรืออีกนัยหนึ่ง คือช่วยการบริหารเพื่อให้เกิดการใช้ประโยชน์อย่างสูงสุดของทรัพยากรทางธุรกิจขององค์กรผ่านการบูรณาการ (Integrate) เข้าด้วยกันและสามารถเชื่อมโยง ณ เวลานั้นทันที (Real Time) ด้วยเทคโนโลยีคลาวด์คอมพิวติ้ง
ซึ่งแต่ละ SME สามารถเลือกใช้ระบบต่างๆ ที่เหมาะสมกับสถานการณ์ของธุรกิจตนเองในขณะนั้นได้ ซึ่งเมื่อธุรกิจได้ทดลองใช้ซอฟต์แวร์ในโครงการแล้วต้องการจะเข้าสู่ระบบ ERP แบบเต็มที่มีจำหน่ายในตลาดปัจจุบันก็สามารถถ่ายโอนข้อมูลจากโครงการไปใช้งานได้ทันที เนื่องจากข้อมูลทั้งหมดถูกออกแบบมาให้เป็นระบบเปิดสามารถใช้งานกับโปรแกรมทั่วไปได้ทันที
สำหรับแผนงานในปีต่อไปนั้น กสอ. ยังจะคงร่วมมือกับพันธมิตรทำโครงการนี้ต่อไป และจะมีการเพิ่มจำนวน SME ที่จะเข้ามาใช้งานโปรแกรม ERP เพิ่มมากขึ้น โดยตั้งเป้าหมายที่ 150 ราย พร้อมการเพิ่มกิจกรรมพิเศษสำหรับรายที่ต้องการใช้โปรแกรมดังกล่าวในแบบก้าวหน้าและมีการนำโปรแกรมไปปรับแต่งให้เหมาะสมกับกิจการตัวเองมากขึ้น หรือการ Customize โดยจะมีที่ปรึกษามาอบรมและเขียนโปรแกรม
ซึ่งผู้ที่จะใช้บริการในส่วนนี้อาจเป็นทั้งรายเก่าที่เข้ามาใช้งานในปีนี้หรือรายใหม่เพิ่งจะเข้ามา ซึ่งจะช่วยให้ SME ไทยสามารถใช้ระบบไอทีมาใช้งาน โดยเสียค่าใช้จ่ายที่ยอมรับได้เฉลี่ยรายละ 30,000 บาท อย่างไรก็ตาม ในปีนี้ได้ส่งเสริม SME ใช้ระบบซอฟต์แวร์ ERP by DIP สำหรับ SME ไทย จำนวน 100 ราย ซึ่งในปัจจุบันมีผู้ประกอบการกว่า 60 รายเข้าร่วมในโครงการแล้ว คาดว่าจะสามารถลดช่วยต้นทุนค่าใช้จ่ายได้ไม่ต่ำกว่า 3 ล้านบาท นายอาทิตย์ กล่าว
สำหรับผู้ประกอบการและประชาชนทั่วไปสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโครงการพัฒนาระบบ ERP by DIP สำหรับ SME ไทย สามารถดูได้ที่ www.erpbydip.com หรือ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร 02-263-8229 หรือสามารถสอบถามเกี่ยวกับโครงการ ต่าง ๆ ได้ที่ กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม ถนนพระรามที่ 6 กรุงเทพฯ โทรศัพท์ 0 2202 4414-18 หรือเข้าไปที่ www.dip.go.th หรือwww.facebook.com/dip.pr
www.smethailandclub.com : แหล่งรวมข้อมูลเพื่อผู้ประกอบการ SME