รัฐมนตรีคลังมอบนโยบายอัดฉีดรายย่อย ใช้เงินแสนล้านช่วยทุกด้าน

รัฐมนตรีคลังมอบนโยบายส่วนราชการในสังกัด เร่งอัดฉีดเงินช่วยประชาชนรายย่อย พร้อมใช้เงินนับแสนล้านช่วยเหลือในทุกด้าน เชื่อไม่เกิน 1 เดือนเห็นผล




    รัฐมนตรีคลังมอบนโยบายส่วนราชการในสังกัด เร่งอัดฉีดเงินช่วยประชาชนรายย่อย พร้อมใช้เงินนับแสนล้านช่วยเหลือในทุกด้าน เชื่อไม่เกิน 1 เดือนเห็นผล

    นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง มอบนโยบายให้กับส่วนราชการในสังกัดกระทรวงการคลัง เพื่อเตรียมออกมาตรการระยะสั้นเสนอ ครม.พิจารณา ครม.พิจารณา สัปดาห์หน้า ช่วยเหลือในระดับรากหญ้า ผ่านกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง เพราะมองว่าการช่วยเหลือชาวบ้านผู้มีปัญหาต้องการเงินทุน พึ่งพาเงินในระบบไม่ได้ ต้องอาศัยเงินกู้นอกระบบ หากรัฐบาลส่งเงินให้โดยตรงคาดว่าจะเป็นกลุ่มได้ใช้ในระบบและหมุนในระบบเศรษฐกิจได้อย่างรวดเร็วภายใน 1 เดือน  เพราะกลุ่มรากหญ้าจะมีการใช้จ่ายเงินทันทีไม่ได้มีการเก็บเงินเหมือนกลุ่มชนชั้นกลาง ที่เวลาไม่มั่นใจเศรษฐกิจจะไม่กล้าใช้เงินจะเก็บเงินไว้

    สำหรับโครงสร้างซ่อมสร้าง ในโครงการลงทุนขนาดเล็ก เมื่อเร่งรัดการลงทุนสำหรับโครงการใหม่เริ่มในวันที่ 1 ต.ค. คาดว่าจะส่งผลต่อเศรษฐกิจในพื้นที่เห็นผลในช่วง 3-4  เดือนหลังเริ่มปีงบประมาณ  การช่วยเหลือดังกล่าวจะเป็นมาตรการระยะสั้น จากนั้นในช่วงต่อไปหรือเฟส 2 จะศึกษามาตรการส่งเสริมการลงทุนของไทยและต่างชาติในเขตเศรษฐกิจพิเศษหรือลงทุนในด้านต่างๆ จากนั้นในเฟส 3 การดูแลโครงการลงทุนขนาดใหญ่ รถไฟฟ้า มอเตอร์เวย์  ให้มีการเปิดประมูล เร่งรัดการลงทุน เพื่อสร้างพื้นฐานการลงทุนของประเทศให้มีศักยภาพในการแข่งขันในระยะยาว

    รายงานข่าวจากกระทรวงการคลัง ระบุว่า การเติมเงินกู้ผ่านกองทุนหมู่บ้าน โดยธนาคารออมสิน  พร้อมนำสภาพคล่องมาปล่อยกู้ให้กองทุนหมู่บ้านเกรด A,B วงเงินประมาณ  5.9 หมื่นปล่อยกู้ให้กองทุนใช้เงินหมู่บ้านละ 1 ล้านบาท โดยรัฐบาล สนับสนุนดอกเบี้ยให้เท่ากับต้นทุนดำเนินงานคือร้อยละ 2.5  จากนั้นกองทุนหมู่บ้านนำไปปล่อยกู้ให้ประชาชนอัตราดอกเบี้ยต่ำมาก ครม.จะพิจารณาความเหมาะสมอีกครั้ง เบื้องต้นรัฐบาลจะให้คิดดอกเบี้ยผ่อนปรน เช่น ร้อยละ 0 ใน 6 เดือนแรก จากนั้นขยับเป็นร้อยละ 1.5-2 แล้วแต่ครม.พิจารณา เพื่อไม่ให้สูงเหมือนที่ผ่านมาคือ ร้อยละ 5

     ส่วนการเร่งรัดการลงทุนโครงการขนาดเล็กไม่เกิน 1ล้านบาท คาดว่างบประมาณซึ่งกระจายตามส่วนราชการประมาณ 1 หมื่นล้านบาท และยังตั้งงบกลาง เพื่อซ่อมแซมสถานที่ส่วนราชการทั่วประเทศวงเงิน  3 หมื่นล้านบาท รวมเป็นเงินทั้งแพ็คเกจขับเคลื่อนเศรษฐกิจครั้งนี้เป็นการอัดฉีดเงินออกสู่ระบบนับแสนล้านบาท

ที่มา -สำนักข่าวไทย
 

NEWS & TRENDS