หอการค้าเปิด 4 แผนยุทธศาสตร์ดันไทยเป็นประเทศยิ่งใหญ่ หวังไทยมีรายได้ก้าวข้ามระดับปานกลางและเป็นผู้นำขีดความสามารถแข่งขัน
หอการค้าเปิด 4 แผนยุทธศาสตร์ดันไทยเป็นประเทศยิ่งใหญ่ หวังไทยมีรายได้ก้าวข้ามระดับปานกลางและเป็นผู้นำขีดความสามารถแข่งขัน
นายอิสระ ว่องกุศลกิจ ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เปิดเผยหลังการเปิดสัมมนายุทธศาสตร์สภาหอการค้าแห่งประเทศไทยว่า สภาหอฯได้กำหนดยุทธศาสตร์ 4ด้านเพื่อพัฒนาให้ประเทศไทยก้าวไปสู่การเป็น “ชาติที่ยิ่งใหญ่ ในอนาคต”และจะช่วยผลักดันให้ไทยเป็นประเทศที่มีรายได้มากกว่าระดับปานกลางอย่างแท้จริง ประกอบด้วยการเพิ่มมูลค่าให้กับอุตสาหกรรมที่มีพื้นฐานที่แรงงานในปัจจุบัน,การสร้างรายได้จากอุตสาหกรรมใหม่ที่มีศักยภาพ, การต่อยอดกิจกรรมจากความเชื่อมโยงเศรษฐกิจภายในประเทศเชื่อมกับอาเซียนและตลาดโลก และ การพัฒนาพื้นฐานเพื่อรองรับการเติบโตอย่างยั่งยืน
“หอฯได้มีการระดมความคิดเห็นและได้มีข้อเสนอแนะแนวทางเพื่อการพัฒนาเศรษฐกิจและขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ เพื่อให้ไทยก้าวไปสู่การเป็นประเทศที่พร้อมรับมือกับการเปลี่ยนแปลงต่างๆที่เกิดขึ้นโดยหอการค้าฯตั้งเป้าหมายว่าอีก 20 ปีข้างหน้าไทยจะมีความพร้อมสำหรับการเป็นประเทศผู้นำด้านขีดความสามารถการแข่งขัน”
สำหรับรายละเอียดยุทธศาสตร์ประเทศประกอบด้วย การเพิ่มมูลค่าให้กับอุตสาหกรรมที่มีพื้นฐานที่แข็งแรงในปัจจุบันโดยอุตสาหกรรมเป้าหมายเช่น เกษตรและอาหาร มีเป้าหมายภายใน 5ปี ต้องมีนวัตกรรมในการผลิตเพิ่มขึ้น กลุ่มยานยนต์และอุปกร์ไฟฟ้า ภายใน 10ปีต้องปรับสู่การผลิตด้วยเทคโนโลยีชั้นสูง กลุ่มเทรดดิ้ง เนชั่น ภายใน5ปีต้องสร้างเทรดเดอร์รายย่อยเพิ่มขึ้นจำนวนมากโดยมีรายใหญ่เป็นผู้นำเปิดตลาด,กลุ่มโลจิสติกส์ ต้องเป็นศูนย์กลางหรือฮับภายใน5ปี ที่ต้องเชื่อมโยงกับภูมิภาคได้และ กลุ่มการท่องเที่ยว ภายใน 5 ปีเน้นคุณภาพนักท่องเที่ยวมากกว่าปริมาณสร้างอัตลักษณ์ให้ท้องถิ่นเป็นต้น
ด้านการสร้างรายได้จากอุตสาหกรรมใหม่ที่มีศักยภาพประกอบเน้นกลุ่มธุรกิจสุขภาพภายใน 5ปีต้องผู้ประกอบการต้องมีความเข้มแข็งและมีมาตรฐาน, ดิจิตอลและครีเอทีฟอีโคโนมี ภายใน 10ปีต้องมีความชัดเจนขอบเขตผู้ประกอบการและมีความเข้มแข็งพร้อมแข่งขัน ด้านการต่อยอดกิจกรรมจากความเชื่อมโยงเศรษฐกิจในประเทศระดับอาเซียน และโลก เน้นการสร้างศักยภาพสินค้าเพื่อการเข้าถึงตลาดรวมถึงการพัฒนาระบบการค้าการเงินการธนาคาร และการดำเนินธุรกิจที่เป็นมาตรฐานเดียวกัน
สำหรับการพัฒนาพื้นฐานเพื่อรองรับการเติบโตอย่างยั่งยืนประกอบด้วยการสร้างนวัตกรรมและแบรนด์สินค้าเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้สินค้าและบริการการมีส่วนร่วมจากทุกฝ่ายการบริหารจัดการแรงงานการบังคับใช้กฎหมาย“
ที่มา : http://www.dailynews.co.th/economic/351401 (เดลินิวส์)