“พาณิชย์”เอาจริงขอความร่วมมือสถาบันการเงินให้ใช้หลักฐานจดทะเบียนปล่อยกู้แก่ธุรกิจอี-คอมเมิรซ์ หวังป้องกันเว็บไซต์เถื่อนหลอกขายสินค้าแก่ประชาชน
“พาณิชย์”เอาจริงขอความร่วมมือสถาบันการเงินให้ใช้หลักฐานจดทะเบียนปล่อยกู้แก่ธุรกิจอี-คอมเมิรซ์ หวังป้องกันเว็บไซต์เถื่อนหลอกขายสินค้าแก่ประชาชน
นายวิชัย โภชนกิจ ผู้ตรวจราชการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กรมพัฒนาธุรกิจการค้าได้หารือกับธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอีแบงก์) และสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) เพื่อขอความร่วมมือให้ออกหลักเกณฑ์การใช้หลักฐานการจดทะเบียนพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ สำหรับผู้ค้าออนไลน์ (อี-คอมเมิรซ์) มาเป็นเกณฑ์ในการพิจารณาปล่อยสินค้าให้กับผู้ค้าออนไลน์ที่มายื่นขอกู้เงิน รวมทั้งจะหารือกับสถาบันการเงินทุกแห่งให้ใช้หลักเกณฑ์เดียวกันในการพิจารณาปล่อยเงินกู้ เพื่อให้ผู้ค้าออนไลน์มาขึ้นทะเบียนกับกรมอย่างถูกต้อง เพราะปัจจุบันมีผู้ขึ้นทะเบียนเพียงแค่ 1%
“กรมอยากให้ทุกหน่วยงานให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ ไม่เฉพาะสถาบันการเงินเท่านั้น แต่รวมถึงหน่วยงานรัฐ ภาคเอกชน รวมถึงประชาชนด้วย ที่จะต้องปฏิเสธการทำธุรกิจกับผู้ค้าออนไลน์ที่ไม่จดทะเบียนอย่างถูกต้อง ซึ่งยืนยันว่าไม่ได้เป็นการจำกัดการเติบโตของอุตสาหกรรมอี-คอมเมิรซ์ แต่เชื่อว่าหากมีการจดทะเบียนถูกต้องจะมีการส่งเสริมอุตสาหกรรมมากกว่า และยังเป็นการป้องกันการถูกหลอกลวงจากเว็บไซต์เถื่อนให้กับประชาชนด้วย”
นอกจากนี้ กรมจะเพิ่มความเข้มงวดมากขึ้นในการสุ่มตรวจเว็บไซต์ของผู้ค้าออนไลน์ โดยกลุ่มที่จะเน้นการตรวจสอบคือ กลุ่มที่มีการลงโฆษณาเว็บไซต์ออนไลน์ กลุ่มเครื่องสำอางค์ กลุ่มเครื่องประดับ โดยในช่วง 6 เดือน 2558 มีการสุ่มตรวจไปแล้ว 324 ราย พบว่าไม่จดทะเบียน 109 ราย และได้ดำเนินคดีตามกฎหมายทะเบียนพาณิชย์ คือ สั่งปรับ 2,000 บาท และปรับวันละ 100 บาท นับจากวันที่เริ่มต้นธุรกิจ และจะส่งเรื่องต่อไปให้สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) ดำเนินการใช้กฎหมายในกรณีที่มีการฉ้อโกงมีโทษปรับ 1 แสนบาท จำคุก 1 ปี หรือทั้งจำทั้งปรับ รวมทั้งส่งเรื่องไปให้กรมสรรพกรและกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ดำเนินการทางกฎหมายต่อไป
ที่มา : http://www.dailynews.co.th/economic/355422