นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รมช.พาณิชย์ เปิดเผยถึงการเร่งผลักดันการส่งออก ว่า ในระยะสั้น กระทรวงพาณิชย์ จะมุ่งการเปิดตลาดใหม่เน้นผลักดันการส่งออกไปตลาดที่ยังเติบโตได้ มีการจัดคณะนักธุรกิจไทยเดินทางไปยังตลาดที่เศรษฐกิจเติบโต เช่น CLMV (กัมพูชา ลาวเมียนมา เวียดนาม) ซึ่งจะเริ่มต้นจากกัม..
นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รมช.พาณิชย์ เปิดเผยถึงการเร่งผลักดันการส่งออก ว่า ในระยะสั้น กระทรวงพาณิชย์ จะมุ่งการเปิดตลาดใหม่เน้นผลักดันการส่งออกไปตลาดที่ยังเติบโตได้ มีการจัดคณะนักธุรกิจไทยเดินทางไปยังตลาดที่เศรษฐกิจเติบโต เช่น CLMV (กัมพูชา ลาวเมียนมา เวียดนาม) ซึ่งจะเริ่มต้นจากกัมพูชาและไปยังประเทศอื่นในภูมิภาค รวมถึงไปยังตลาดใหม่ เช่น อิหร่าน เป็นต้น
ในขณะเดียวกันช่วงเดือนพฤศจิกายน 2558 นี้จะมีการประชุมคณะกรรมการพัฒนาการค้าระหว่างประเทศ โดยมีพล.อ.ประยุทธ์จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน เพื่อแก้ไขปัญหา อุปสรรค ที่มีต่อการส่งออก และปรับโครงสร้างการส่งออกทั้งระบบ แบบบูรณาการกับทุกกระทรวงที่เกี่ยวข้อง
ทั้งนี้กระทรวงพาณิชย์ได้มีการจัดทัพทูตพาณิชย์ ตามยุทธศาสตร์การเจาะลึกอาเซียน โดยได้มีการดำเนินการปรับเปลี่ยน ด้วยการนำทูตพาณิชย์ที่เก่งที่สุดมาประจำอยู่ในกลุ่มประเทศอาเซียน 9 ประเทศ ซึ่งคาดว่าการดำเนินการน่าจะแล้วเสร็จในช่วงต้นเดือนพฤศจิกายน 2558 เพื่อให้แผนการบุกเจาะตลาดอาเซียนดียิ่งขึ้น อีกทั้งจะเป็นการช่วยเพิ่มยอดการส่งออกสินค้าไทยไปยังตลาดอาเซียน ในฐานะตลาดส่งออกอันดับ 1 และยังรองรับการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC)
นอกจากนี้ภายหลังการปรับทัพทูตพาณิชย์ จะมีการดำเนินการตามแผนการบุกเจาะตลาดเชิงลึก โดยจะมุ่งเน้นตลาดที่เป็นเมืองสำคัญ 50 เมืองของโลก และ 50 เมืองของอาเซียน ซึ่งทูตพาณิชย์จะต้องเข้าไปสำรวจในแต่ละเมือง ว่ามีสินค้าและบริการใดของไทยที่มีโอกาสเข้าไปเจาะในตลาดเป้าหมายเหล่านี้ได้บ้าง และให้ทำแผนในการบุกเจาะตลาดมาเสนอต่อกระทรวงพาณิชย์
สำหรับภาพรวมการส่งออกของไทยในช่วง 9 เดือน ปี 2558พบว่ามีมูลค่าการส่งออกอยู่ที่ 161,563 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลง4.98% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2557 ที่ผ่านมา ซึ่งแม้ยอดการส่งออกจะไม่ดีนัก แต่ส่วนแบ่งการตลาดของไทยในตลาดคู่ค้าทุกประเทศกลับเพิ่มขึ้น และมูลค่าการส่งออกของไทยเมื่อเทียบกับ 1 ใน 20 ประเทศผู้ส่งออกรายใหญ่สุดของโลกในช่วง 9 เดือนแรก ปี 2558 พบว่าภาพรวมการส่งออกของไทยยังถือว่าติดลบน้อยกว่าในหลายประเทศ เช่น รัสเซีย ติดลบ 30.7% ออสเตรเลีย ติดลบ 21.8% นิวซีแลนด์ ติดลบ 17.6% อินเดีย ติดลบ 15.3% สิงคโปร์ ติดลบ 14% ญี่ปุ่น ติดลบ9.2% เกาหลีใต้ ติดลบ 9.0% และสหรัฐ ติดลบ 6.1% เป็นต้น
ที่มา แนวหน้า