"สมคิด" สั่งการบ้านคลัง 6 เรื่องเร่งรวมข้อมูลให้เสร็จไตรมาส 4

“สมคิด” มอบนโยบายให้ ก.คลัง 6 เรื่อง เพื่อเร่งดำเนินการรวบรวมข้อมูลให้แล้วเสร็จภายในไตรมาส 4 ปีนี้ ก่อนนำเข้า ครม.ปี 59




    “สมคิด” มอบนโยบายให้ ก.คลัง 6 เรื่อง เพื่อเร่งดำเนินการรวบรวมข้อมูลให้แล้วเสร็จภายในไตรมาส 4 ปีนี้ ก่อนนำเข้า ครม.ปี 59

    นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังการมอบนโยบายให้กระทรวงการคลัง ว่า ได้แบ่งเป็น 6 กลุ่มงาน เพื่อเร่งดำเนินการรวบรวมข้อมูลให้แล้วเสร็จภายในไตรมาส 4 ปีนี้ ก่อนนำเข้า ครม.ปี 59 ประกอบด้วย  การปฏิรูปโครงสร้างภาษีอากร เพื่อขยายฐานรายได้ และสร้างความเป็นธรรมให้สังคม โดยจะครอบคลุมหลายเรื่องของระบบภาษี ที่มั่นใจว่าหากดำเนินการแล้วจะสามารถรายได้ให้ประเทศเพิ่มขึ้น โดยจะไม่เบียดเบียนประชาชน ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวนั้น จะรวมถึงการเดินหน้าการพัฒนาช่องทางการชำระเงินผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ด้วย  


    ขณะเดียวกัน ยังต้องการอำนวยความสะดวกในการลงทุน การทำธุรกิจ และการให้บริการประชาชน  ซึ่งในวันที่ 6 พ.ย.นี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะชี้แจงรายละเอียดถึงการดำเนินการการจัดอันดับความยากง่ายในการทำธุรกิจ  ให้กับพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี รับทราบว่าได้ดำเนินการอะไรบ้างในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งจะต้องเร่งดำเนินการให้เร็วที่สุด รวมทั้ง พัฒนาศักยภาพการแข่งขันของประเทศ ซึ่งถือเป็นเรื่องใหญ่ที่ต้องเร่งดำเนินการ เพื่อให้ประเทศสามารถแข่งขันได้ โดยได้มอบหมายให้สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ไปดำเนินการจัดทำรายละเอียด โดยเฉพาะการจัดตั้งกองทุนนวัตกรรม ที่จะนำเงินจากองทุนมาใช้พัฒนาภาคธุรกิจทั้งไทยและต่างชาติร่วมลงทุน ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นงบประมาณประจำจากรัฐในการตั้งกองทุน


     นอกจากนี้ ยังต้องพัฒนาตลาดทุนและตลาดเงิน โดยจะให้ สศค. ร่วมกับธนาคารแห่งประเทศไทย หรือ ธปท. และสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) พัฒนาทั้ง 2 ตลาดให้มีความเป็นสากลมากขึ้น และสามารถสะท้อนความต้องการของเศรษฐกิจ รวมสามารถทำให้นักลงทุนรายใหญ่เข้ามาลงทุนในไทยได้ คาดว่าจะใช้เวลาในการทำงาน 5-6 เดือน ในการดำเนินการ ทั้งนี้ ยังต้องเน้นการปฏิรูปภายในกระทรวงการคลัง อาทิ กรมธนารักษ์ จะต้องมีหน้าที่ในการหาประโยชน์จากสินทรัพย์ที่มีอยู่ และการจัดเก็บรายได้ของกรมภาษีต้องมีประสิทธิภาพมากขึ้น และการดำเนินการด้านการคลังเพื่อสังคม โดยต้องหาแนวทางในการดึงภาคเอกชนเข้ามาร่วมลงทุนในการพัฒนาสังคมร่วมกัน“

ที่มา : http://www.dailynews.co.th/economic/357491

NEWS & TRENDS