“กรณ์” หวั่นมาตรการรัฐเพิ่มหนี้ให้ประชาชน แนะเน้นโครงสร้างพื้นฐานพัฒนาระยะยาว เชื่อเลือกตั้งเรียกความเชื่อมั่นต่างชาติแน่
“กรณ์” หวั่นมาตรการรัฐเพิ่มหนี้ให้ประชาชน แนะเน้นโครงสร้างพื้นฐานพัฒนาระยะยาว เชื่อเลือกตั้งเรียกความเชื่อมั่นต่างชาติแน่
นายกรณ์ จาติกวณิช อดีต รมว.การคลัง เปิดเผยว่า ขณะนี้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ภาครัฐเลือกใช้สามารถช่วยผลักดันการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (จีดีพี) ได้ไม่ถึง 2% และนโยบายส่วนใหญ่เป็นการเร่งกระตุ้นกำลังซื้อ แม้จะช่วยลดความเดือดร้อนของประชาชนลงได้พอสมควร แต่ถือเป็นการสร้างหนี้ให้เพิ่มขึ้น ซึ่งปัจจุบันหนี้ครัวเรือนไทยถือว่าอยู่ในระดับสูงมากเกินไปจนน่ากังวล ดังนั้นสิ่งที่รัฐบาลควรให้ความสำคัญคือ การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเพื่อเสริมศักยภาพเศรษฐกิจของประเทศในระยะยาวมากกว่า
“ยอมรับว่าเศรษฐกิจไทยเริ่มถึงจุดอิ่มตัว โดยเมื่อ 30 ปีก่อนจีดีพีไทยเติบโตเร็วกว่าค่าเฉลี่ยของโลก แต่ในช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมา เริ่มชะลอตัวลง และต้องมาระดมความคิดหาจุดเด่นของไทยใหม่ เพื่อจะผลักดันศักยภาพ และการฟื้นตัวของเศรษฐกิจเพิ่มขึ้น ดังนั้นความเสี่ยงของเศรษฐกิจไทยขณะนี้คือจีดีพีที่อยู่ในระดับต่ำ ซึ่งประชาชนที่มีรายได้น้อย และผู้ประกอบอาชีพเกษตรกรรมได้รับผลกระทบมากที่สุด ดังนั้นรัฐบาลควรเร่งแก้ปัญหาให้ตรงจุด”
สำหรับกระแสเงินทุนต่างชาติที่ไหลออกจากตลาดเงินตลาดทุนไทยตลอด3 ปีที่ผ่านมา เนื่องจากผลตอบแทนที่ไม่คุ้มค่า และปัญหาการเมืองถือว่ามีผลในระดับหนึ่งต่อความเชื่อมั่น รวมถึงกระแสข่าวเรื่องภาษีมรดก และภาษีที่ดิน ส่งผลให้เกิดการเคลื่อนย้ายเงินลงทุนไปยังต่างประเทศากพอสมควร อย่างไรก็ตามหากธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด) ขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย ส่วนตัวคาดว่าจะไม่ส่งผลต่อตลาดหุ้นไทยมากนัก เพราะฐานะทางการเงินไทยยังแข็งแกร่ง แต่จะกระทบกับประเทศในภูมิภาคที่มีการกู้ยืมเงินจากต่างประเทศค่อนข้างสูง
นอกจากนี้หากการเลือกตั้งภายในประเทศเกิดขึ้นได้จริง เชื่อมั่นว่าจะสร้างความมั่นใจให้กับของนักลงทุนต่างชาติเข้ามาในตลาดหุ้นไทยมากขึ้นประมาณ 300,000 ล้านบาท เท่ากับจำนวนเงินที่ไหลออกไปตลอด 3 ปีที่ผ่านมา เพราะปัญหาขณะนี้คือหลายประเทศมีนโยบายปฏิเสธการลงทุนในประเทศที่สภาวะทางการเมืองไม่ชัดเจน
ที่มา : http://www.dailynews.co.th/economic/358990