คลังเร่งขยายฐานภาษี กุมขมับ ระบบ อปท. อ่อนแอ รัฐต้องจัดงบให้ปีละ 2-3 แสนล้าน หวังเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างช่วยพยุง
คลังเร่งขยายฐานภาษี กุมขมับ ระบบ อปท. อ่อนแอ รัฐต้องจัดงบให้ปีละ 2-3 แสนล้าน หวังเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างช่วยพยุง
นายสมชัย สัจจพงษ์ ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ขณะนี้ แนวทางการปฏิรูปภาษีต้องขยายฐานเก็บภาษีมากขึ้น เนื่องจากปัจจุบันการจัดเก็บภาษีจากฐานบริโภค 57% , ฐานเงินได้ 42%และฐานทรัพย์สิน 1% ส่งผลให้ต้องปรับขยายเพื่อให้เกิดความยุติธรรมมากขึ้น โดยนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ได้ให้นโยบายกระทรวงการคลังเสนอโครงร่างปฏิรูปภาษีให้พิจารณาภายในสิ้นปี 58 เพราะต้องการดำเนินงานให้ทันในรัฐบาลชุดนี้
ขณะเดียวกัน ระบบองค์กรปกครองท้องถิ่น (อปท.) ยังอ่อนแอมาก เพราะปัจจุบันรัฐบาลต้องให้เงินกับองค์กรดังกล่าว 200,000-300,000 ล้านบาทต่อปี ดังนั้นต้องเร่งปฏิรูป โดยเบื้องต้นมีแนวคิดจะให้องค์กรปกครองท้องถิ่นสามารถจัดเก็บภาษีที่ดินเพื่อช่วยเหลือตนเองได้ ทำให้รัฐมีเงินงบประมาณเหลือไปพัฒนาส่วนอื่น ๆ ต่อไป ซึ่งนายกรัฐมนตรีมีคำสั่งให้พิจารณาอย่างรอบครอบถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับผู้เสียภาษีให้ยอมรับได้เสียก่อน แล้วจึงนำมาเสนอให้ ครม. พิจารณา
ทั้งนี้ ที่ผ่านมา ใจความสำคัญจะมีทั้งการเพิ่มและลดอัตราภาษี รวมถึงการพิจารณาประเภทภาษีใหม่ ส่วนของภาษีนิติบุคคลได้ปรับลดอัตราจาก 30% เป็น 20% เป็นการถาวร จึงอาจไม่พิจารณาปรับอีก โดยได้เริ่มนโยบายจัดเก็บภาษีมรดกไปแล้ว และต่อไปจะมีการเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ส่วนภาษีบุคคลธรรมดาจะจะปรับลดอัตราที่ปัจจุบันเก็บสูงสุด 35% ให้ต่ำลง ซึ่งสอดคล้องกับทิศทางภาษีบุคคลธรรมดาทั่วโลก โดยกำลังพิจารณาและจะประเมินไปพร้อมกับค่าลดหย่อน การหักค่าใช้จ่าย ในอัตราที่มีความเหมาะสม
“หากปรับลดภาษีบุคคลธรรมดา ต้องมั่นใจว่าจะสามารถขยายภาษีได้ และไม่ล้มเหลวเหมือนการลดภาษีนิติบุคคลจาก 30% เป็น 20% ที่ไม่สามารถขยายฐานภาษีได้เลย สะท้อนจากจำนวนผู้เสียภาษียังเท่าเดิม และทำให้เก็บภาษีต่ำกว่าเป้าหมาย เพราะผู้ประกอบการยังทำ 2 บัญชีอยู่”
อ่านต่อที่ : http://www.dailynews.co.th/economic/360220