นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีเศรษฐกิจ มอบนโยบายให้เอกอัครราชทูตไทยและกงสุลใหญ่ ประจำประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก เพื่อชี้แจงมาตรการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ซึ่งรัฐบาลได้ดำเนินการขณะนี้และเริ่มมีสัญญาณที่ดีต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจผ่านมาตรการต่าง ๆ และเมื่อได้ออกมาตรการดูแลเศรษฐกิจแล..
นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีเศรษฐกิจ มอบนโยบายให้เอกอัครราชทูตไทยและกงสุลใหญ่ ประจำประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก เพื่อชี้แจงมาตรการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ซึ่งรัฐบาลได้ดำเนินการขณะนี้และเริ่มมีสัญญาณที่ดีต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจผ่านมาตรการต่าง ๆ และเมื่อได้ออกมาตรการดูแลเศรษฐกิจแล้ว ขั้นต่อไปจะเข้าสู่การเดินหน้าปฏิรูปประเทศด้านต่าง ๆ ซึ่งศึกษาไว้แล้ว การให้ไทยเติบโตจากภายในประเทศพึ่งพาตนเองแทนการพึ่งพาส่งออก การเพิ่มศักยภาพการแข่งขัน จากนั้นจะเริ่มเดินทางออกไปโรดโชว์ชี้แจงนักลงทุนต่างชาติ เพื่อให้เกิดความเชื่อมั่นในช่วงกว่า 1 ปีที่รัฐบาลเร่งดำเนินผ่านมาตรการต่าง ๆ
นายสมคิด กล่าวว่า จึงอยากฝากให้ทูตไทยช่วยสรรหาแหล่งทุน หรือธุรกิจที่มีแนวโน้ม และศักยภาพพร้อมลงทุนต่างประเทศ เพื่อหาพันธมิตรมาร่วมลงทุนกับไทย เช่น เยอรมนี มีศักยภาพด้านอุตสหากรรมเทคโนโลยีใหม่ เนื่องจาก ครม.เตรียมพิจารณาแผนส่งเสริมผู้ประกอบการผ่านซุปเปอร์คลัสเตอร์วันที่ 17 พฤศจิกายนนี้
นอกจากนี้ ยังกำหนดยุทธศาสตร์ให้เอกอัคราชทูตร่วมกับประเทศเพื่อนบ้านพัฒนาผู้ประกอบการ เน้นกลุ่มประเทศที่มีศักยภาพ ได้แก่ กลุ่ม CLMV เพื่อให้ไทยมีบทบาทเป็นผู้นำในเวทีโลก เนื่องจากต่อนี้ไปไทยจะเริ่มเวทีเจรจาการค้าเสรีกับประเทศต่าง ๆ ซึ่งได้เคยหารือไว้ เพื่อให้กระทรวงพาณิชย์ร่วมกับกระทรวงการต่างประเทศนำผู้ประกอบการบุกตลาดต่างประเทศมากขึ้นผ่านการหารือแบบทวิภาคี
นายดอน ปรมัตถ์วินัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า ทูตไทยประจำเทศต่าง ๆ ทั่วโลกจะเร่งหาลู่ทางการลงทุน เพื่อนำผู้ประกอบการไทยออกไปเจรจาการค้าการลงทุน รวมทั้งการเดินหน้าเจรจาการค้าเสรีกับสหภาพยุโรป (อียู) ซึ่งเคยเจรจาค้างไว้หลายปีที่ผ่านมา ส่วนการเจรจาทวิภาคีกับสหรัฐได้เปลี่ยนไปเป็นการค้าเสรีผ่านเวทีหุ้นส่วนยุทธศาสตร์เอเชีย-แปซิฟิก (ทีพีพี) ซึ่งไทยกำลังศึกษาอยู่ขณะนี้ เพราะมีเวที RCEPT ซึ่งกำลังเจรจาอยู่ด้วยเช่นกัน ขณะนี้รัฐบาลจึงเริ่มเปิดประเทศเจรจากับประเทศต่าง ๆ ในการหาพันธมิตรรองรับการค้าและการลงทุน
ที่มา-สำนักข่าวไทย